ปิดกั้นพื้นที่โดยด่วน หลังพบระเบิดซุกซ่อนเพิ่มอีกลูกในถังขยะบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ฟันธง เชื่อมโยงกับกลุ่มการก่อความความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่

จากเหตุระเบิด 2 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา โดยคนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาที่จุดแรกบริเวณรูปปั้นนางเงือกทอง แรงระเบิดทำให้ส่วนหางรูปปั้นขาดกระจุย และจุดที่ 2 บริเวณรูปปั้นหนูกับแมว ซึ่งทั้ง 2 จุดอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตรและถือเป็นสัญลักษณ์ของชายหาดแหลมสมิหลา

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างที่ นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีหรือชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจภูธรจังหวัด ปรากฏว่าพบระเบิดอีก 1 ลูกวางอยู่ในถังขยะบริเวณชายหาดใกล้กับทางเดินทางไปยังรูปปั้นนางเงือก

ทางชุดอีโอดีจึงรีบแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลารวมทั้งกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากจุดเกิดเหตุและใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลายตัดวงจร ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับที่ระเบิดเมื่อคืนนี้ พร้อมกับเร่งเคลียร์พื้นที่โดยรอบและยังปิดถนนที่ผ่านจุดเกิดเหตุจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯสงขลาได้สั่งการให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดโดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ ที่จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

ด้าน พลตำรวจโทรณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้เปิดเผยหลังจากร่วมประชุมกับฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครองว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวาน 2 จุดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าถึงชนิดของระเบิด ต้องให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเก็บหลักฐานไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็นเหตุความมั่นคงที่เกี่ยวกับการก่อเหตุความไม่สงบหรือไม่

มีรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง ระบุว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นเนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของแกนนำที่มีการประชุมที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และได้มีการแจ้งเตือนให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ส่วนเป้าหมายเพื่อต้องการทำลายเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา ทั้งการค้า การท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตอบโต้มาตรการปราบปรามสินค้าหนีภาษีบริเวณแนวชายแดนไทยมาเลเซียที่ได้ผล ทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบเสียผลประโยชน์