กรมชลประทานสั่งเฝ้าระวังพื้นที่ จ.ตรัง คาดน้ำจาก อ.ทุ่งสง จะไหลไปถึงพรุ่งนี้ (8 ม.ค. 2562) พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง รองรับสถานการณ์
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ภายหลังจากที่พายุ “ปาบึก” ได้เคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้เข้าสู่ภาวะปกติ เกือบทั้งหมดแล้ว ยกเว้นในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำที่ท่วมขังในตัวเมือง ปัจจุบันส่วนใหญ่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังคงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณชุมชนบ่อทรัพย์ ที่ยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 10 เซนติเมตร คาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงเที่ยงของวันนี้ (7 ม.ค.62) ส่วนในพื้นที่อำเภอรอบนอก สถานการณ์น้ำที่ อ.ปากพนัง ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังล่าง ยังคงมีน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 15-20 เซนติเมตร ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 26 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 26 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากมีตะกอนทรายปิดกั้น ทางน้ำ ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระบายน้ำได้ช้า จึงได้ส่งเครื่องจักร เครื่องมือ ลงพื้นที่ดำเนินการขุดเปิดตะกอนทรายบริเวณปากคลองท่าพญา ช่วยให้การระบายน้ำได้สะดวกมากขึ้น คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 10 วัน
อนึ่ง กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังจับตาเป็นพิเศษในพื้นที่ จ.ตรัง หลังน้ำจากพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จะไหลลงสู่แม่น้ำตรังในเขต จ.ตรัง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังเพิ่มสูงขึ้นทั้งนี้ คาดว่าปริมาณน้ำจาก อ.ทุ่งสง จะเดินทางมาถึงแม่น้ำตรังที่สถานี X.56 อ.ห้วยยอด ใช้เวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง และต่อเนื่องถึงสถานี X.47 อ.เมืองตรัง ใช้เวลาประมาณ 17-19 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังเพิ่มสูงขึ้นอีก ทางกรมชลประทานได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง รวมทั้งเตรียมพร้อมรถขุดไฮโดรลิค 4 คัน เครื่องผลักดันน้ำ 10 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง รถบรรทุก 3 คัน รถแทรกเตอร์ 1 คัน และรถบรรทุกน้ำอีก 1 คัน ที่พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมได้ตลอดเวลา