เจ้าหน้าที่บุกช่วยเหลือเด็กชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน ส่งโรงพยาบาล หลังถูกพ่อเลี้ยง และแม่วัย 19 ปี ติดยาเสพติด ทำร้ายจนบาดเจ็บปางตาย และให้กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้ม ทำให้ขาดสารอาหารอยู่ในสภาวะช็อค อาจเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่บ้านเด็กและครอบครัว จังหวัดชุมพร เข้าช่วยเหลือเด็กชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน ซึ่งอยู่ในสภาพถูกทำร้าย จนเบ้าตาเขียวช้ำ ทั้งสองข้าง ตามเนื้อตามตัว มีรอยถูกฟันกัดหลายแห่ง นำตัวมาส่งโรงพยาบาล โดยมีแม่เด็ก วัย 19 ปี ติดตามมาด้วย
เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกายเด็ก พบอีกว่า บริเวณทรวงอก มีร่องรอยซ้ำภายใน ต้องใช้การสแกนเพื่อตรวจสอบอวัยวะภายใน ส่วนผลเลือดของเด็กอยู่ในสภาวะขาดสารอาหารที่จำเป็น ทำให้เกล็ดเลือดต่ำอย่างหนัก กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติอาจช็อค เสียชีวิตได้
แพทย์ลงความเห็นว่า ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพราะมีเครื่องมือทันสมัย และแพทย์เฉพาะทาง
เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า แม่ของเด็กมีอาชีพเป็นแม่บ้าน นำลูกมาอยู่กับพ่อเลี้ยง อายุ 26 ปี ลูกจ้างรับตัดปาล์ม ภายในกระท่อม สภาพทรุดโทรม โดยแม่เด็กติดยาบ้า ส่วนพ่อเลี้ยงเสพน้ำใบกระท่อม
เมื่อทั้งสองคน อยู่ในอาการเมายา มักมีอารมณ์ร้าย เวลาที่ลูกชายร้องไห้ เพราะหิว ทั้ง 2 คน ก็จะทุบตีด้วยความรุนแรง บางครั้งก็ใช้ฟันกัดตามร่างกาย จนเป็นรอยเขี้ยวเห็นชัด
ล่าสุด 2-3 วันที่ผ่าน ทั้งสองทำร้ายร่างกายลูกชาย จนพลัดตกจากบ้าน ทำให้ร่างกายเด็กอยู่ในสภาพ สะบักสะบอมอย่างหนัก และทราบว่า เด็กได้กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้ม ไม่เคยกินนม หรืออาหารอื่นที่มีประโยชน์
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สอบสวนพ่อและแม่ของพ่อเลี้ยงเด็ก ยอมรับว่า เห็นเหตุการณ์การทารุณกรรมเด็กชายมาโดยตลอด แต่ไม่กล้าห้ามปราม เนื่องจากกลัวลูกชายจะทำร้าย จนเพื่อนบ้านข้างเคียงรู้และเห็นเหตุการณ์ รับไม่ได้จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่บุกไปช่วย และนำตัวเด็กออกมา พร้อมแม่ของเด็ก
เบื้องต้น แม่แท้ๆของเด็ก ยังให้การปฏิเสธ ว่า ไม่ได้ทำร้ายลูก ส่วนรอยเขี้ยว อ้างว่า หยอกล้อลูกรุนแรงไป แต่ยอมรับว่า มีทุบตีบ้าง เพราะลูกชายร้องไห้งอแง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอนำตัวเด็กชายไปรักษาก่อน และจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีพ่อเลี้ยงและแม่เด็กต่อไป