จับมือปืนวัย 16 ปี ยิงขมับนักศึกษา ปวช. ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน นำศพทิ้งอำพรางในร่องน้ำสวนปาล์มจังหวัดชุมพร คาดเป็นสายตำรวจให้เบาะแสจับเพื่อนค้ายาเสพติด พ่อยันไม่เผาศพลูกชาย เชื่อมีผู้ร่วมขบวนการอีก
จากกรณี "น้องกล้า"อายุ 16 ปี นักศึกษาสาขาช่างยนต์ ระดับ ปวช 1 วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน ถูกคนร้าย ใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะ นำศพไปทิ้งในร่องน้ำกลางสวนปาล์ม ตำบลทุ่งตะไคร อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร ห่างจากบ้านพัก ผู้เสียชีวิตประมาณ 2 กิโลเมตร
ล่าสุด พลตำรวจตรีสหรัฐ ศักดิ์ศิลป์ชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรทุ่งตะโก คุมตัวนายโอ๊ค อายุ 16 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตาย เป็นบุคคลสุดท้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์มาส่งผู้ตาย มาสอบสวน หลังศาลจังหวัดหลังสวน อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงคนเดียว
ส่วนสาเหตุที่ฆ่ากัน ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะจะเสียรูปคดี และผู้ต้องหาเอง ก็เป็นเยาวชน จะส่งตัวไปยื่นคำร้องต่อศาล เด็ก เยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร ขออำนาจควบคุมตัวไว้ เพื่อสอบสวนต่อไป
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ระบุว่า สาเหตุมาจากเพื่อนๆร่วมแก๊งของนายโอ๊ค (ผู้ต้องหา) 5-7 คน อายุระหว่าง 15-17 ปี มีประวัติเสพ และค้ายาบ้า
เมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกตำรวจจับกุมเกี่ยวกับเสพและค้ายาบ้า เกือบทั้งแก๊ง ทำให้ "นายโอ๊ค" หัวหน้าแก๊ง เกิดความสงสัยผู้ตาย ซึ่งมาอยู่ในแก๊งได้ไม่นาน กลัวว่า อาจจะไปเป็นสายให้กับตำรวจมาจับกุมแก๊งของตัวเอง
จนวันเกิดเหตุ หลังผู้ตายเลิกเรียน นายโอ๊ค ออกอุบาย อาสาพาไปส่งที่บ้าน และก่อเหตุฆ่าดังกล่าว ส่วนอาวุธปืน หลังก่อเหตุได้นำไปทิ้งลงแม่น้ำใกล้ทะเล อยู่ระหว่างค้นหา แต่ยังไม่พบ
ทั้งนี้ ตำรวจกำลังขยายผลว่า มีร่วมก่อเหตุมากว่า 1 คนหรือไม่ แต่นายโอ๊คยืนยันว่า ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขณะที่บรรยากาศงานศพน้องกล้าที่บ้านพัก มีคณะอาจารย์ เพื่อนๆ นักศึกษาจากวิทยาลัยการอาชีพหลังสวน และชาวบ้าน มาร่วมแสดงความเสียใจ นำพวงหรีดมาเคารพศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง
นายสุคล สุทธานี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า นายโอ๊ค มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับลูกชาย เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้เรียนต่อ ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงโหดเหี้ยมฆ่าลูกชายตนได้ และตนไม่เชื่อว่า นายโอ๊ค ลงมือฆ่าเพียงคนเดียวไม่ได้ เพราะหากสู้กันตัวต่อตัว นายโอ๊คสู้ลูกชายตนไม่ได้แน่ เพราะลูกชายเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแรง
โดยสภาพศพที่พบตามร่างกาย มีรอยฟกช้ำหลายจุดเหมือนถูกรุมทำร้าย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ก่อเหตุจะลงมือเพียงคนเดียว ขอยืนยันว่า หากตำรวจยังไม่จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด หรือคลี่คลายคดีให้เกิดความชัดเจน ทำให้สิ้นความสงสัย จะไม่ขอเผาศพลูกชายอย่างเด็ดขาด
เช่นเดียวกับ ป้าของน้องกล้า (ผู้ตาย) ที่กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า นายโอ๊คซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของน้องกล้า จะเป็นคนลงมือ เชื่อว่า ต้องมีคนสั่งการแน่นอน
สำหรับนายโอ๊ค เป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายนานแล้ว ปัจจุบันอาศัยอยู่กับย่า บ้านอยู่ห่างผู้ตาย ประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสาเหตุ คิดว่า น้องกล้าคงจะไปรู้อะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับนายโอ๊ค และกลุ่มเพื่อนๆ จึงร่วมกันลงมือฆ่า