อย.เตือนการใช้ผ้าอนามัย ทำหน้ากากป้องกันฝุ่นตามโซเชียลมีเดีย อันตราย เสี่ยงเกิดอาการแพ้ ด้านกรมการค้าภายใน เตรียมส่งเจ้าหน้าที่สำรวจตลาดเพิ่มเติม หากพบขายหน้ากากปลอม หรือเกินราคา ถูกจับปรับทันที

โลกออนไลน์ มีการแชร์ภาพหน้ากากอนามัย ที่ทำจาก "ผ้าอนามัย" แบบเย็น ใช้สวมใส่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก แก้ปัญหาหน้ากากอนามัยแบบ N95 ที่เริ่มขาดตลาด และมีราคาแพง ขณะที่หลายคนกังวลว่า จะได้รับอันตรายจากสารทำความเย็นที่อยู่ในผ้าอนามัย และไม่สามารถป้องกันฝุ่นละอองได้จริง

นายแพทย์ พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ผ้าอนามัย มีส่วนประกอบหลัก คือสารดูดซับ , แผ่นฟิล์ม , แถบกาว และอาจมีสารอื่นๆผสมอยู่ด้วย เพื่อเสริมให้ผลิตภัณฑ์น่าใช้ เช่น สี , กลิ่น หรือสารให้ความเย็น ซึ่งสารเหล่านี้ จะต้องสอดคล้องกับประกาศเกี่ยวกับสารด้านเครื่องสำอาง

แต่การนำผ้าอนามัย มาประกบกับหน้ากากอนามัย เพื่อใช้ปิดจมูกป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นการนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ และอาจเกิดอันตรายจากสารที่เป็นส่วนผสมในผ้าอนามัย เช่น ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ และไม่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้มากกว่า หน้ากากอนามัยธรรมดา

ด้านพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "ขับเคลื่อนการศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 2019" ที่จังหวัดระยอง ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กำลังดำเนินการเรื่อง การผลิตหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM2.5

โดยทำไปแจกจ่ายแล้วกว่า 1 แสนชิ้น พร้อมให้นักศึกษาอาชีวะจิตอาสา ไปตั้งศูนย์อาชีวะเพื่อชุมชนกว่า 100 จุด ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วยในการเช็คล้างไส้กรอง-ท่อไอเสียรถยนต์ รวมทั้งใช้นวัตกรรมอาชีวศึกษาเข้ามาช่วย ผลิตเครื่องพ่นละอองน้ำ ผลิตได้แล้วประมาณ 700 เครื่อง และจะเริ่มติดตั้งในจุดที่อยู่ในภาวะวิกฤต ภายใน 1-2 วันนี้

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงราคาขายของหน้ากาก N95 ที่เริ่มขาดแคลน ราคาแพง และบางแห่งขายของปลอมว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจตามตลาด หรือ แหล่งซื้อขายหน้ากากอนามัย พร้อมดำเนินการกับผู้ค้าที่ขายหน้ากาก N95 แพงเกินความเป็นจริงแล้ว และประสาน 13 บริษัทผู้ผลิต ให้ผลิตหน้ากากออกมาให้เพียงพอกับความต้องการ ส่วนหน้ากากอนามัยปลอม ได้ประสาน อย. เข้ามาร่วมตรวจสอบแล้ว

สำหรับประชาชนที่พบเห็นการขายหน้ากากอนามัย เกินราคา หรือเป็นของปลอม สามารถแจ้งกรมการค้าภายใน หรือสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และดำเนินคดี หากพบว่าทำผิดกฏหมาย