ชายเมาอาละวาด ทำร้ายคนในบ้านจนถูกนายจ้างไล่ออกจากงาน ก่อนขนเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแอบฉกรถกระบะนายจ้างขับหลบหนี แต่แหกโค้งพลิกคว่ำหลายตลบ รถพังเสียหายยับ รอดปาฏิหาริย์
ตำรวจภูธรบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบรถกระบะ วีโก้ แบบตอนเดียว มีคอกเหล็กขอบกระบะหลัง สีขาว ในสภาพนอนพลิกตะแคงข้าง พิงกำแพงรั้วบ้านของชาวบ้าน บริเวณเส้นทางหลวงชนบท สายวัดพิมพา-แสนภูดาษ ตำบลหนองจอก ในอำเภอบางปะกง พบว่า ด้านหน้ารถกระบะ อยู่ห่างจากโคนเสาไฟฟ้าแรงสูง แค่เพียงประมาณ 20 เซนติเมตร
นอกจากนี้ ตามเส้นทางฝั่งมุ่งหน้าไปยังตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ มีร่องรอยของตัวรถครูด มากับพื้นถนนเป็นทางยาว มีหลักเขตพร้อมป้ายสะท้อนแสงบอกแนวทางโค้งหักขาดกระเด็นออกมาจากโคนต้น และมีป้ายโครงการของ อบต.หนองจอก ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ คนขับคือ นายอาทิตย์ อาบุ 33 ปี ได้ถูกชาวบ้าน และนายอิทธิพัทธ์ อายุ 48 ปี เจ้าของรถคันเกิดเหตุ ซึ่งขับรถติดตามมาทัน ช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ได้ ตรวจสอบตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ
นายอิทธิพัทธ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ขนาดเล็กแห่งหนึ่ง เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเวลาประมาณ 18.00 น. ได้ไล่นายอาทิตย์ให้ออกจากงาน หลังจากเพิ่งรับเข้ามาทำงานได้เพียง 3 วัน
เนื่องจากดื่มสุรา ในที่ทำงานและก่อเหตุอาละวาด และเข้าจะทำร้ายร่างกายพ่อของตนเอง สำหรับนายอาทิตย์ ตนเพิ่งรับเข้ามาทำงานเป็นพนักงานขับรถขนส่งสินค้าจำพวกชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ซึ่งหลังจากตนไล่ออกจากงานแล้ว แต่ผ่านไปประมาณ 20 นาที นายอาทิตย์ได้หอบหิ้วถุงใส่เสื้อผ้า และแอบขับรถยนต์คันเกิดเหตุหลบหนีออกมา
เมื่อตนทราบ จึงได้ขับรถยนต์อีกคัน ติดตามมาจนพบว่า รถคันที่นายอาทิตย์ ขับมานั้น ประสบอุบัติเหตุตรงบริเวณทางโค้งดังกล่าว จึงได้ช่วยกันกับชาวบ้านในบริเวณที่เกิดเหตุ ทำการควบคุมตัวเอาไว้ได้
สอบถามนายอาทิตย์ ปฏิเสธว่า ไม่ได้ตั้งใจจะขโมย แต่ต้องการจะขับรถออกไปรับภรรยาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้มาทำงานด้วยกันยังที่โรงงานแห่งนี้ ส่วนที่เอารถไป โดยไม่บอกนายจ้าง ก็เพราะนายจ้างไม่อยู่ที่โรงงานตั้งแต่เช้า พอกลับมาพบกันในช่วงเย็นก็มาถูกนายจ้างด่าว่า
โดยนายอาทิตย์ ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราไปสองขวด โดยดื่มกับเพื่อนคนงานอีก 3 คน ส่วนสาเหตุที่ขับรถพลิกคว่ำหลายตลบแล้วไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอะไรเลยนั้น นายอาทิตย์บอกว่า เพราะเราคิดดี ทำดี จึงมีสิ่งดีๆ คอยคุ้มครอง โดยขณะที่รถตีลังกา พลิกคว่ำม้วนอยู่นั้น ได้แต่นึกถึง "พ่อ-แม่" แค่นั้น
เบื้องต้น ตำรวจเตรียมดำเนินคดีในข้อหา ขับรถโดยประมาท จนทำให้ทรัพย์สินของทางราชการ และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ส่วนคดีอาญานั้น อยู่ที่เจ้าของรถ ซึ่งเป็นผู้เสียหายนั้นจะแจ้งความให้ดำเนินคดีในข้อหาอะไรบ้างต่อไป