พ่อค้าขายไก่ย่าง เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจนครบาล หลังถูกวัยรุ่นนับ 10 คน รุมทำร้ายร่างกาย- ฟันแขน จน บาดเจ็บสาหัส เย็บเกือบ 70 เข็ม สาเหตุเพียงแค่ถามว่า "มองหน้าทำไม" หลังถูกขี่รถปาดหน้า ขณะนี้ คดีผ่านมาเกือบเดือน กลับไม่คืบหน้า
นายบอล ธงแก้ว อาชีพขายไก่ย่าง พร้อมด้วย นางสาง วรีรัตน์ สีลารัตน์ แฟนสาว นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าร้องเรียนต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน ใช้อาวุธมีดรุมทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จนต้องเย็บแผลรวมเกือบ 70 เข็ม แต่ผ่านไปเกือบเดือน คดียังไม่คืบหน้า
นายบอล เล่าว่า วันเกิดเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้าน ไปพร้อมแฟนสาว มุ่งหน้าไปซอยเพชรเกษม 48 เมื่อมาถึง จุดเกิดเหตุ มีชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้า ก่อนที่คนซ้อนท้าย จะหันกลับมามอง ตนเองจึงถามว่า "มองหน้าทำไม"
จากนั้น คู่กรณีจอดรถ แล้วเดินเข้ามาหาตนเองและแฟนสาว โดยมีพวกอีกประมาณ 10 คน ตามมาประกบ แล้วรุมทำร้าย โดยมีชายคนหนึ่ง ใช้อาวุธมีดหัวตัดกระหน่ำฟันตนเองไม่ยั้ง จนหมดสติไป ก่อนจะรู้สึกตัวที่โรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บ ที่แขน เอ็นทั้ง 4 นิ้วขาด กระดูกหัก 1 ข้อ มีบาดแผลตามใบหน้า และ ลำตัวอีกจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุ แฟนสาวได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางเสาธง ต่อมา ผู้ก่อเหตุ เดินทางมามอบตัว 2 คน พยายามขอไกล่เกลี่ย จะจ่ายเงินให้ 5 หมื่นของจบคดี แต่ตนเองไม่ยอม อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น
ทั้งนี้ วันเกิดเหตุมีวัยรุ่นอีกหลายคน เข้ามารุมทำร้าย เจ้าหน้าที่ ก็ยังจับตัวไม่ได้ จึงเดินทางมาร้องเรียน อยากให้ตำรวจดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุที่เหลือ และ แจ้งข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส" หรือแจ้งข้อหา "พยายามฆ่า"
นายบอล บอกว่า ตอนนี้กลุ่มที่ก่อเหตุ ก็ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่หรือไม่ เพราะผ่านมานาน ตำรวจก็ตามจับไม่ได้ จึงเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมยืนยัน และ ท้าสาบานว่า ตนเองกับคู่กรณี ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อน
ด้าน พันตำรวจโท รังสรรค์ ตุ้ยโชติ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.บางเสาธง ชี้แจงว่า คดีนี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหา อีก 1 คน ซึ่งผู้เสียหายทราบเพียงชื่อเล่น คาดว่า จะใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 7 คน ตำรวจยังอยู่ระหว่างสืบสวนเช่นกัน เพราะข้อมูลที่ได้จากผู้เสียหายน้อยมาก เนื่องจากจำหน้าและชื่อของคนร้ายไม่ได้