"คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย" โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ รู้สึกเป็นห่วงวิธีคิดของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มีท่าทีอ่อนน้อมกับคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการรัฐประหาร แต่แข็งกร้าวกับคนที่เป็นตัวแทนประชาชน ตามประชาธิปไตย
ภายหลังจากที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงนักการเมืองที่เสนอนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารและตัดงบกองทัพให้ไปฟังเพลง "หนักแผ่นดิน" รวมทั้งสั่งให้รายวิทยุในเครือข่ายของกองทัพบกเปิดเพลง "หนักแผ่นดิน" นั้น
วันนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธาานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวออกมาตอบโต้ผู้บัญชาการทหารบก โดยมีเนื้อหาที่สำคัญ เช่น
รู้สึกเป็นห่วงวิธีคิดของ ผบ.ทบ. ที่มีท่าทีอ่อนน้อมอย่างยิ่งกับคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีที่มาจากการรัฐประหาร แต่แข็งกร้าวกับคนที่เสนอตัวมาเป็นตัวแทนประชาชนตามครรลองประชาธิปไตยแบบไร้เส้น ทั้งที่ตามสถานะ ผบ.ทบ. ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า "ถ้าจะต้องให้บอกว่า จะเพิ่มงบให้กระทรวงกลาโหมจากแสนกว่าล้านบาท เป็นสองแสนกว่าล้านบาท แบบที่รัฐบาลนี้ทำ จึงจะเป็นคนไม่หนักแผ่นดินในสายตา ผบ.ทบ.
โดยคุณหญิง สุดารัตน์ ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงนโยบายตัดงบกองทัพว่า จะตัดงบออกมาประมาณ 10 เปอร์เซนต์ คือ 2 แสนล้านบาทเพื่อนำมาใช้พัฒนาคนรุ่นใหม่ และสร้างโอกาสในการทำธุรกิจด้วยตัวเอง โดยงบที่ตัดมานี้จะไม่ให้กระทบต่อคุณภาพชีวิตของกำลังพลชั้นล่าง
ส่วนเรื่องการเกณฑ์ทหารนั้น เห็นว่าหากให้คนเข้ามาเป็นทหารด้วยความสมัครใจ จะทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่า
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.กอ.รมน.) ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงดูแลสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหาเสียงขณะนี้ ระหว่างไปเป็นประธานพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กอ.รมน. ครบรอบ 11 ปี ประจำปี 2562
โดย พลเอก อภิรัชต์ ได้ย้อนถามกลับว่า “เพลงอะไรที่กำลังฮิตตอนนี้ ก็เพลงหนักแผ่นดิน” ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามต่อถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และ 1 ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยเสนอนโยบายตัดงบกลาโหม 10% และ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่ง พลเอกอภิรัชต์ ยังคงย้ำให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า พลเอกอภิรัชต์ ได้สั่งการให้กรมกิจการพลเรือนทหารบก (กร.ทบ.) นำเพลงแนวปลุกใจทหาร เช่น เพลงหนักแผ่นดิน เพลงมาร์ชกองทัพบก และ เพลงความฝันอันสูงสุด เป็นต้น เปิดในสถานีวิทยุกองทัพบก 126 สถานีทั่วประเทศ ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดราชการ เพื่อให้ทหารทุกคนตระหนักในการทำหน้าที่ของตัวเอง สำนึกต่อความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เนื่องจาก ที่ผ่านมา มีบางฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ บิดเบือนข้อมูลโจมตี สร้างความเข้าใจผิดในการปฏิบัติงานของรัฐบาลและกองทัพ ดังนั้น หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องชี้แจงผ่านสื่อในสังกัดอย่างรวดเร็ว
ต่อมา ช่วงเย็นวันเดียวกัน กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้แจ้งให้ผู้จัดรายการของสถานีวิทยุในเครือ ทบ. งดเปิดเพลง หนักแผ่นดิน มาร์ชกองทัพบก และ ความฝันอันสูงสุด ในรายการวิทยุของ ทบ.ทั้งหมด เพราะเกรงว่า จะทำให้สังคมนำไปตีความในทางที่ผิด โดยให้เปิดเพลงผ่านเสียงตามสายในกองบัญชาการกองทัพบก 3 เวลา 7.20 น. 12.20 น. และ 16.20 น. โดยให้หน่วยทหารทั่วประเทศเปิดเพลงดังกล่าวด้วย
ด้าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่ พรรคการเมืองหลายพรรคออกนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และ พรรคเพื่อไทยชูนโยบายลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม ร้อยละ 10 เพื่อตั้งกองทุนสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ ว่า ขอให้ทุกคนเข้าใจ เพราะหน้าที่ปกป้องประเทศเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนไม่ใช่แค่ทหาร อีกทั้ง การเกณฑ์ทหาร ยังเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องเตรียมการไว้รับมือกับภัยสงคราม แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายโต้แย้งว่า ปัจจุบันไม่มีสงครามแล้ว แต่ในอดีตก็มีบทเรียนว่า สงครามมักเกิดขึ้นกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้ง ยืนยันว่า ไม่ได้แก้ตัวให้ใครแต่พูดตามหลักการ
ส่วน หน้าที่ของทหาร ไม่ใช่มีแค่หน้าที่ป้องกันน่านน้ำ และ น่านฟ้าของประเทศ แต่ยังมีหน้าที่ป้องกันปัญหาเรื่องยาเสพติดและปัญหาตามแนวชายแดน รวมถึง ยังมีหน้าที่ร่วมกันพัฒนาประเทศ และ เสริมกำลัง ให้กับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพราะวันนี้ ไม่ได้มองแค่เรื่องสงครามเพียงอย่างเดียว
ส่วน การจัดตั้งกองพลทหาร ล้วนได้รูปแบบมาจากฝั่งตะวันตกทั้งสิ้น เพื่อเป็นการเตรียมกองกำลังไว้สู้รบ เพราะหากไม่มีการเตรียมการ อาจจะลำบากในวันข้างหน้า จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ เพราะเป็นหน้าที่ชายไทยทุกคนที่ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน และ จริงๆ แล้วชายไทยทุกคนต้องเป็นทหาร แต่ปัจจุบันอัตราการเกณฑ์ทหารจะเกณฑ์เท่ากับความจำเป็นของแต่ละกรมกองเท่านั้น ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ต่อต้านทางการเมือง เพราะกระทรวงกลาโหม ก็ต้องปฏิบัติตามรัฐบาลอยู่แล้ว
ส่วนที่ หลายพรรคการเมือง เสนอนโยบายลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีระบุว่า ต้องไปดูกระทรวงอื่นประกอบด้วย เพราะการเพิ่มงบประมาณอาจเป็นเพราะ ต้องจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เพิ่มขึ้นเนื่องจาก ไม่สามารถซ่อมแซมของเก่าได้ ส่วนทุกกระทรวง ก็มีการเพิ่มงบประมาณขึ้นทุกปีที่เป็นไปตามหลักการ จึงขอให้เข้าใจเพราะเรื่องงบประมาณก็ถูกพิจารณาผ่านคณะกรรมการ ดังนั้นหากจะหาเสียงเพื่อเอาแค่สนุกปากไม่นึกถึงประเทศชาติจะต้องรับผิดชอบในวันข้างหน้าด้วยหากเกิดอะไรขึ้น อย่างเช่นในเรื่องการช่วยเหลือภัยพิบัติ เพราะมีเพียงทหารที่ออกมาทำงานได้ และ อุปกรณ์กว่าร้อยละ 50 ก็ถูกออกมาใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่ใช้เพียงทางการทหารเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังปฏิเสธการตอบคำถามถึงเพลงกระแสดังในโลกโซเชียล โดยระบุว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ยังไม่ฟัง นอกจากนี้ ก่อนที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจดูคำถามก่อน พร้อมเปรยออกมาว่า คำถามดุเดือดทุกวัน
ส่วน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบเรื่องนี้สั้นๆ ว่า ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ตามที่ พลเอกอภิรัชต์ บอก
ขณะที่ ประเด็นการตั้งรัฐบาลรักษาการตามที่หลายฝ่ายเรียกร้อง พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่มี เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดเอาไว้