ทนายวอชด็อก มีความเห็นกฏหมายคุ้มครองสัตว์กับคุ้มครองคนเพียงพอแล้ว เพียงแต่นำมาใช้ให้เหมาะสม ยกกรณีสุนัขจรจัดกัดประชาชน สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเทศบาลได้
จากกรณีเกิดเหตุสุนัขทั้งที่มีเจ้าของ และเป็นสุนัขจรจัดกัดเด็ก และประชาชนในหลายพื้นที่ ตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของวอชด็อกไทยแลนด์ มีความเห็นว่า กฎหมายที่มีตอนนี้คุ้มครองทั้งคนและสัตว์ โดยสามารถนำมาใช้ได้ทันที ไม่ว่าฝ่ายใดจะตกเป็นผู้ถูกกระทำหรือเป็นผู้เสียหาย
ซึ่งในกรณีที่สุนัขที่มีเจ้าของกัด หรือทำร้ายผู้เสียหายนั้น ทางผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดี เรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวได้ ขณะที่หากเป็นสุนัขจรจัด ไม่มีเจ้าของกระทำในลักษณะเดียวกัน ทางผู้เสียหาย ก็สามารถเรียกค่าเสียหายจากเทศบาลที่เปรียบเสมือนเจ้าของสุนัขได้เช่นกัน
เนื่องจากมีข้อกฎหมาย กำหนดให้เทศบาลตรวจสอบสัตว์จรจัดในพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งหามาตรการในการกำกับดูแล รวมทั้งประสานกับทางปศุสัตว์ให้เข้าตรวจสอบโรค และฉีดวัคซีนสัตว์จรจัดในพื้นที่อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในหลายกรณีที่สุนัขจรจัดกัดประชาชน หรือเด็กตามข่าวที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนตัวไม่อยากให้มุ่งไปที่ตัวสัตว์อย่างเดียว แต่มองว่า ทางเทศบาลควรออกมารับผิดชอบ ประกอบกับทางครอบครัวผู้ปกครองเอง ก็จะต้องดูแลบุตรหลานของท่านด้วย
ทั้งนี้ ฝากถึงผู้เลี้ยงสัตว์ หากไม่พร้อมก็ไม่ควรนำมาเลี้ยง เพราะหากนำไปทิ้งก็เป็นการสร้างภาระและความเสี่ยงให้กับสังคม