หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะลงพื้นที่หาเสียงและพบประชาชนย่านพระราม 4 พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคมนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมคณะลงพื้นที่ตลาดหลังโลตัส พระราม 4 ที่ร้านเจ้จงหมูทอด พร้อมให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่ถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ร่วมเวทีดีเบตว่า ต้องการให้เวทีดีเบตของไทยเป็นมาตรฐานเหมือนอย่างในต่างประเทศ ที่มีการส่งเสริมให้คนที่อาสามาทำงานให้ประชาชนได้พูดคุยกันในรูปแบบที่สร้างสรรค์ ซึ่งตนเองดีใจที่พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยว่าควรจะมีเวทีดีเบต
ทั้งนี้ มองว่าการที่นักการเมืองสื่อสารข้างเดียวนั้น ประชาชนจะไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ครบถ้วนและไม่ได้ตอบคำถามหลายอย่าง ทำให้ประชาชนไม่มีการนำข้อมูลมาเปรียบเทียบหรือหักล้างกัน ยกตัวอย่างในอดีตที่นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ค่อยได้เข้าร่วมประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ค่อยได้ตอบกระทู้อย่างที่ควรจะเป็น
ส่วนเวทีดีเบตที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จัดอยู่ในขณะนี้เห็นว่ามีปัญหา ซึ่งเท่าที่รับทราบคือมีการจับคู่โดยดีเบตไม่ได้เดินทางมาพร้อมกัน ซึ่งตนเองคู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งควรพยายามผลักดันให้เป็นเวทีที่เป็นมาตรฐานสากล
สำหรับการจัดทำนโยบายของพรรคการเมืองที่มีบางฝ่ายมองว่าไม่สอดคล้องกับงบประมาณที่ กระทรวงการคลังจัดสรรนั้น มองว่าทุกพรรคต้องอธิบายที่มาของงบประมาณอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ดำเนินการ แจกแจงงบประมาณที่จะใช้ในการจัดทำนโยบายเผยแพร่ในเว็บไซต์ของพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว ทั้งจำนวนเงินที่ต้องใช้
ขณะที่การจัดทำนโยบายของพรรคการเมืองบางพรรคที่มีลักษณะของการแจกแหลกนั้น มองว่า ตัวเลขการจัดทำนโยบายของประชาธิปไตยมาจากการศึกษาเรื่องของความจำเป็นและความเหมาะสม เราจึงได้ย้ำว่าต้องระวังสินค้าลอกเลียนแบบและการเกทับกัน เพราะนั่นหมายถึงว่าไม่ได้มาจากฐานความคิดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น แต่ใน ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีการอธิบายถึงที่มาของตัวเลขอย่างชัดเจนและได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจซึ่งประชาชนก็ตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีพรรคการเมืองซื้อเสียงหัวละ 500 บาทนั้น อยากให้ กกต. ทำงานเชิงรุกด้วยการตรวจสอบโดยไม่ต้องรอให้มีการร้องเรียน และขณะนี้ตัวเองได้รับรายงานเรื่องการเก็บบัตรประชาชนในจังหวัดภาคใต้ ส่วนในเขตกรุงเทพ ก็มีการผูกโยงนโยบายของพรรคกับโครงการต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทางพรรคอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป