แม่โจ๋ปล้นรถขนเงินยัน ลูกชายไม่เคยนำเงินมาให้ที่บ้าน แต่ได้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งนั้นนำเงินที่ได้จากการร่วมกันก่อเหตุครั้งแรกเมื่อปี 2560 จำนวนหลายล้านบาทไปซื้อบ้าน รถ และทอง โดยอ้างกับครอบครัวว่าถูกรางวัลที่ 1
วันที่ 1 มี.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี 2 คนร้ายขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ใช้ปืนยิงข่มขู่จี้ชิงเงินสดจากรถขนเงินของบริษัทเอกชน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยได้เงินไปจำนวน 7.2 ล้านบาท
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายจิรายุส หรือแบงค์ สวนมิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน ที่จ.79/2562 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ในฐานความผิด "ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธ ขู่เข็ญเพื่อยื่นให้ซึ่งทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน"
ล่าสุดมีรายงานว่า นางขนิษฐา นาถะภักฏิ แม่ของนายจิรายุส พร้อมญาติได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย หลังทราบข่าวว่าตำรวจจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งนางขนิษฐา ยืนยันว่า ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยนำเงินที่ได้จากการจี้ชิงเงินมาให้คนในครอบครัว ส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายกลัวทางครอบครัวจะรับไม่ได้ และคาดว่าเงินที่ได้มาน่าจะถูกใช้เที่ยวเตร่จนหมดแล้ว สำหรับเรื่องที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ครอบครัวก็ยอมรับและทำใจปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนนายทักษ์ดนัย หนึ่งในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุกับลูกชายนั้น ตนได้ยินคนในละแวกบ้านเล่าว่าเมื่อปี 2560 นายทักษ์ดนัย ได้บอกกับครอบครัวและเครือญาติว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 และได้นำเงินจำนวนนี้ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อทอง แจกครอบครัวและลูกหลานจนหมด