ศาลจังหวัดนครพนมนัดอ่านคำพิพากษาคดีครูจอมทรัพย์ และพวก ในข้อหาซ่องโจรและความผิดเกี่ยวกับเอกสาร โดยล่าสุดสั่งจำคุก 8 ปี ครูจอมทรัพย์
นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียน เดินทางมาศาลจังหวัดนครพนม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพื่อฟังการพิจารณาคดีกรณีอัยการจังหวัดนครพนม เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางจอมทรัพย์ เป็นจำเลย ในข้อหาซ่องโจร และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ร่วมกับพวกอีกประกอบ 7 คน
ประกอบด้วยนายสุริยา นวนเจริญ หรือครูอ๋อง นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีนางจอมทรัพย์ นายเสน่ห์ สุพรรณ นางรจนา จันทรัตน์ และนางสาววาสนา เพ็ชรทอง
โดยคดีดังกล่าว เกิดขึ้นจากกรณีนางจอมทรัพย์ ตกเป็นจำเลยในคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ซึ่งต้องโทษจำคุกจากการพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน
แต่เมื่อปี 2558 ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ออกจากเรือนจำจังหวัดนครพนม รวมถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน หลังพ้นโทษก็เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม ช่วยรื้อฟื้นคดีอ้างว่า ตกเป็นแพะ
กระทั่งศาลนัดสืบพยานตามคำร้องขอ ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ เมื่อปี 2560 โดยอ้างชื่อนายสับ วาปี ที่ออกมายอมรับว่า เป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริง จนกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญ ให้ศาลรับรื้อฟื้นคดี
แต่ภายหลังศาลยกคำร้อง เพราะพยานหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ ตำรวจจึงแจ้งความตามจับขบวนการจ้างแพะช่วยแกะ
โดยปลายปี 2561 ศาลจังหวัดนครพนม ได้มีคำพิพากษาจำเลย นายสับ พร้อมภรรยา นางจันทร์ วาปี ซึ่งรับสารภาพ จึงได้รับการลดโทษครึ่งหนึ่ง คือ นายสับ จำคุก 2 ปี 10 เดือน ส่วนนางจันทร์ วาปี จำคุก 1 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญาทั้ง 2 ราย หลังมีคำพิพากษา พร้อมยื่นอุทธรณ์ และยื่นขอประกันตัว ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
ล่าสุด เบื้องต้นศาลมีคำพิพากษาจำคุกนางจอมทรัพย์ 8 ปี ,จำคุกนายสุริยา 7 ปี 9 เดือน ,จำคุกนางทัศนีย์ 2 ปี 19 เดือน , จำคุกนางทองเรศ 2 ปี 12 เดือน และจำคุกนายนิรันดร์ 2 เดือน ส่วนจำเลยที่เหลือศาลมีคำสั่งยกฟ้อง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการยื่นขอประกันตัว