สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.พะเยา ยังคงทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยค่าหมอกควันได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุถึง 164 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
สภาพปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดพะเยา ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศโดยทั่วไปปกคลุมด้วยหมอกควัน และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการจราจร ด้วย โดยล่าสุด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นเกินค่ามาตรฐาน ทะลุถึง 164 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ทางสาธารณสุขพะเยา ได้ออกประกาศให้ชาวบ้าน งดทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง และดูแลรักษาสุขภาพให้ดี
ด้านนายประพันธ์ กาใจทราย ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังชุดชุมชน เฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่หมู่บ้านโป่งเกลือใต้ หมู่ 15 ตำบลแม่ปืม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง และระงับไฟป่า ไม่ให้มีการเผาป่า ในช่วง 60 วัน อันตราย ลดปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยจัดให้มีชุดลาดตระเวนของหมู่บ้านร่วมปฎิบัติหน้าที่ ด้วย
ส่วนสถานการณ์หมอกควัน และไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังวิกฤติหนักต่อเนื่อง ล่าสุดจังหวัดเชียงใหม่ ยังครองแชมป์อันดับ 1 ของโลก ที่มีค่ามลพิษเลวร้ายที่สุด (จากเว็บไซต์ www.airvisaul.com) ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว
ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (15 มี.ค.2562) ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เกือบทุกจุดเพิ่มขึ้น เกินค่ามาตรฐาน โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 145 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้พบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่ภาพ นักศึกษาฝึกงาน ภายในสำนักงานของตนเอง ไอ และจามออกมาเป็นเลือด ซึ่งอาจเป็นผลกระทบมาจากสภาวะอากาศปัจจุบัน ทำให้มีผู้เข้ามาดู และแสดงความคิดเห็นอย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะที่นักศึกษาฝึกงานคนที่ ไอ และจามออกมาเป็นเลือด เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ระหว่างที่ตนเองป่วยเป็นหวัด โดยขณะ ออกไปซื้อของข้างนอก และสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย ได้ไอ จามออกมาเป็นเลือด ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะมลพิษอากาศข้างนอก หรือไม่ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงต้องพักผ่อน และดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ที่จังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 ยังนำรถน้ำพร้อมรถกระเช้าทำการฉีดพ่น ตามจุดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมทั้งเปิดน้ำพุตามจุดต่างๆ ให้เกิดความชื้น หวังลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่ /โดยในช่วงแรกจะฉีดพ่นน้ำ ตั้งแต่เวลา ประมาณ 09.00 น.-10.00 น. และในช่วงที่ 2 ตั้งแต่เวลา 14.00 น.-15.00 น. ของทุกวัน จนกว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กจะลดลงจนเป็นปกติ
โดย ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.-11.00 น. สามารถวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 153-155 ไมโครกรัมต่อต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกันทางจังหวัด ได้ประกาศเตือน ชาวบ้านในพื้นที่ ให้ลดกิจกรรมกลางแจ้ง และใช้อุปกรณ์ป้องกันในการดูแลสุขภาพ เพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เข้าไปในระบบทางเดินหายใจ