ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความ ปอท. เอาผิดแอดมินเพจ "CSI LA" โพสต์ภาพและข้อความจับผิดเลือกตั้ง 62 ยันกองทัพไม่มีนโยบายบังคับให้ทหารลงคะแนนให้พรรคใดพรรคหนึ่ง
วันที่ 18 มี.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการ ประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. รับมอบอำนาจ คสช. เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง พัชรี วงษ์บุญ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ให้ดำเนินคดีกับผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ก "CSI LA"
ซึ่งโพสต์ภาพ และข้อความผ่านเพจดังกล่าว ว่า "จับผิดเลือกตั้ง 62 เคสที่ 30 : มีสายข่าวรายงานเข้ามา พิษณุโลก และเชียงคำพะเยา และอีกหลายๆเขตทหารเกณฑ์โดนบังคับให้เลือกตั้งไปแล้วนะครับ คะแนนเต็มด้วย สืบเอาเองนะคับได้ข่าวจากวงใน" นอกจากนี้ยังมีการโพสต์รูปภาพจำนวน 4 ภาพ โดยภาพแรกเป็นรูปคล้ายทหารเข้าแถวยืนเรียงกัน ส่วนภาพที่ 2, 3 และ 4 เป็นภาพที่บันทึกจากแชทซึ่งเผยให้เห็นข้อความต่างๆ ที่มีการแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องการเลือกตั้ง
โดยคณะทำงานด้านกฎหมายของ คสช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เข้าฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ พ.อ.บุรินทร์ กล่าวถึงเหตุผลที่มาแจ้งความกับทาง ปอท. ว่า ทางกองทัพบกไม่เคยมีนโยบายบังคับให้ทหารต้องไปลงคะแนนเลือกผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิและเสรีภาพของส่วนบุคคล แต่ภาพดังกล่าวมีทหารมายืนเรียงแถวเพื่อรอลงคะแนนนั้น เป็นการปฎิบัติที่นำกำลังพลมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทางกองทัพบก ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทหารทุกนายและต้องเป็นการปฎิบัติมีวินัย มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
จากการตรวจสอบพบว่าเพจ "CSI LA" เคยโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดก็โพสต์เรื่องที่มีแหม่มถูกข่มขืนที่เกาะเต่า ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก ทาง คสช. จึงต้องพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ด้าน ร.ต.อ.ศตวรรษ แวงแสน รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. กล่าวว่า หลังรับแจ้งความแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอผู้บังคับบัญชา ให้พิจารณาสั่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป