จับแล้วโจรสาวหน้าตาดี ขโมยโทรศัพท์มือถือที่วางโชว์ในห้างดัง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนสลับนำเครื่องปลอมมาวางแทน โดยญาติหอบหลักฐาน อ้างป่วยโรคซึมเศร้าและอาการทางจิตมาแสดง
กรณีเฟซบุ๊ก "แม่วังสื่อสาร" ซึ่งเป็นของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารรายใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ พร้อมข้อความขอความช่วยเหลือ
ให้ช่วยแจ้งเบาะแสคนร้ายเป็นผู้หญิงผมยาวสาวหน้าตาดี ที่ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในร้านสาขาห้างสรรพสินค้ากาดสวนแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยการทำทีเป็นดูโทรศัพท์ แล้วทำการสับเปลี่ยนกับเครื่องปลอมที่เตรียมมา และหลบหนีไปอย่างใจเย็น
ล่าสุด เย็นวานนี้ (22 มี.ค.62) ตำรวจนำหมายจับควบคุมตัวหญิงสาวอายุ 31 ปี ชาวจังหวัดลำพูน จากบ้านพักที่จังหวัดลำพูน มาสอบสวนที่ สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งหญิงสาวยอมรับว่า ไปที่เกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้ขโมยโทรศัพท์ไป อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า แม้หญิงสาว จะให้การปฏิเสธ แต่หลังจากการสอบสวนเพิ่มเติมแล้วมีการแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ เนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่นหนา
ด้านพนักงานประจำร้านที่ขายโทรศัพท์มือถือที่ถูกขโมย เดินทางมาดูหญิงสาวที่ถูกควบคุมตัว บอกว่า ในวันเกิดเหตุหญิงสาวคนดังกล่าว ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาดูโทรศัพท์ที่วางโชว์อยู่ และฉวยโอกาสช่วงที่พนักงานในร้านกำลังบริการลูกค้ารายอื่นอยู่ นำเครื่องปลอมสับเปลี่ยนแล้วหลบหนีไป
เมื่อทางร้านพบว่า โทรศัพท์มือถือหาย จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพช่วงก่อเหตุไว้ได้ และเข้าแจ้งความ รวมทั้งโพสต์คลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ช่วยกันแจ้งเบาะแส จนกระทั่งจับกุมตัวได้
ซึ่งแม้ว่า ผู้ก่อเหตุจะปฏิเสธ แต่มั่นใจว่า มีหลักฐานชัดเจนที่จะเอาผิด ส่วนที่มีการอ้างว่า ป่วยทางจิตนั้น ไม่ทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยการดำเนินการตามกฎหมายจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ทั้งนี้ ในช่วงค่ำ ระหว่างที่ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหานั้น ชายอายุประมาณ 80 ปี ซึ่งเป็นตาของผู้ต้องหา และ น้าชาย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน พร้อมนำหลักฐานเป็นเอกสาร และประวัติการรักษาอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และอาการป่วยทางจิตของหญิงสาวผู้ต้องหา มาแสดงประกอบการสอบสวนผู้ต้องหาด้วย
โดยเอกสารดังกล่าวมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุชัดเจนว่า ผู้ต้องหาป่วยด้วยโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง และมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วย
น้าชายของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หลานสาวป่วยโรคซึมเศร้า มานานแล้วกว่า 2-3 ปี ต้องเข้ารับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่เคยอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน และรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทุกวันนี้ยังต้องกินยาและต้องเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องตามแพทย์นัด
หลังจากที่เห็นเรื่องราว ที่มีการโพสต์ในโซเชียลและข่าวที่มีการนำเสนอ ได้สอบถามหลานสาวแล้วว่า ก่อเหตุจริงหรือไม่ แต่หลานสาวปฏิเสธ และยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่อง
จนกระทั่งตำรวจนำมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ตนได้นำหลักฐาน และประวัติการรักษามาแสดงเพราะเป็นไปได้หรือไม่ว่า หากหลานสาวก่อเหตุจริง น่าจะมีสาเหตุมาจากอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่
หลังจากสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ ได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าควบคุมไว้ที่ห้องขังของสถานีตำรวจ เนื่องจากทางญาติไม่สามารถหาหลักทรัพย์มาประกันตัวไว้
โดยผู้ต้องหา มีสีหน้านิ่งเฉย และค่อนข้างเครียดระหว่างถูกนำตัวเข้าห้องขัง โดยมีตา และน้าชายให้กำลังใจ ซึ่งในวันนี้ (23 มี.ค.) จะหาหลักทรัพย์จำนวน 30,000 บาท เดินทางมาทำเรื่องขอประกันตัวอีกครั้ง