หลายหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือคุณตาวัย 85 หลังพบว่า ตกสำรวจ ยังไม่เคยมีบัตรประจำตัวประชาชน โดยเร่งประสานญาติเพื่อพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ยืนยันผลทางพันธุกรรม ก่อนออกบัตรประจำตัวประชาชน คาดดำเนินการได้เร็วๆนี้

นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ได้มอบหมายให้นายธีระยุทธ นาวีเดล ปลัดอาวุโส อำเภอสะเดา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอสะเดา กิ่งกาชาด อำเภอสะเดา และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองสะเดา เดินทางลงพื้นที่บ้านไพร เขตเทศบาลเมืองสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

เพื่อพบกับนายโป่ง แซ่เตียว อายุ 85 ปี หรือตาโป่ง อีกครั้ง หลังจากที่ได้ไปพบ และพูดคุย ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา

โดยได้มีการมอบอุปกรณ์ยังชีพเช่น ข้าวสาร ปลากระป๋อง และน้ำมันพืช ให้กับตาโป่ง ซึ่งปลัดอาวุโส บอกว่า ขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประสานกัน เพื่อช่วยเหลือตาโป่ง เป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะการออกบัตรประจำตัวประชาชน ที่จะต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ผลทางพันธุกรรม

ซึ่งจะต้องติดต่อกับน้องสาวของตาโป่ง ตามที่ตาโป่งอ้างว่า อยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังจากนั้น เมื่อผลการตรวจดีเอ็นเอ ออกมา ก็จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสะเดา เพื่อเพิ่มชื่อ และเข้าสู่การออกบัตรต่อไป

โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจหรือพิสูจน์ดีเอ็นเอ ทางกิ่งกาชาด อำเภอสะเดา จะเร่งระดมทุนช่วยเหลือต่อไป และคาดว่า คงดำเนินการได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วันต่อจากนี้

สำหรับการช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ก็จะเริ่มทยอยตามขั้นตอน อย่างเช่น การช่วยเหลือทางด้านสุขภาพ ทางฝ่ายสาธารณสุข อำเภอสะเดา กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสะเดา เพื่อที่จะนำหมอหรือพยาบาลมาตรวจร่างกายตาโป่ง ที่บอกว่า ตอนนี้มีอาการปวดหัวเข่า และต้องรับประทานยา ซึ่งตาโป่งซื้อมาจากร้านยา แล้วมารับประทานเอง

ทั้งนี้ ตาโป่ง บอกว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ย้ายไปอยู่บ้านดินลาน อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา และมาอยู่ที่อำเภอสะเดา ตั้งแต่ยังเล็กๆ ในชีวิตไม่เคยมีบัตรประจำตัวประชาชน

ปัจจุบันเฝ้าสวนให้เจ้าของที่ดิน และบ้านที่อาศัยอยู่ ก็เป็นเพียงบ้านยกพื้นเล็กๆ พอกันแดดกันฝน พร้อมเลี้ยงสุนัขจรจัด ที่คนนำไปทิ้งไว้อีกเกือบ 30 ตัว ซึ่งมีเงินจากผู้ใจบุญมอบให้ นำไปซื้ออาหาร

ส่วนหนึ่งก็จะขี่รถจักรยานคู่ใจไปที่ตลาดเทศบาลสะเดา เพื่อเก็บเศษอาหารมาต้มให้สุนัขกิน หากมีบัตรประชาชนเหมือนคนอื่นๆก็จะดีมาก เพราะว่า จะได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล และใช้สิทธิต่างๆที่เป็นการช่วยเหลือจากทางรัฐได้ ต้องขอขอบคุณทุกๆคน ทุกๆหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือ