ศาลอาญาคดีทุจริตพิพากษา "พระครูกิตติฯ" อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน ฐานสมคบฟอกเงิน คดีเงินทอนวัด เจอคุก 13 กระทง 39 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 26 ปี
วันที่ 18 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาคดีเงินทอนวัด สำนวนแรก ที่อัยการยื่นฟ้องอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ หรือ นายสมเกียรติ ขันทอง อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค เป็นจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันกับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. (ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี) สมคบฟอกเงินทอนวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์, จ.นครสวรรค์, จ.ตาก และ จ.ชุมพร เป็นจำนวนเงินประมาณ 28 ล้านบาท โดยในชั้นศาลจำเลยให้การปฎิเสธ
สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2560 พระครูกิตติพัชรคุณ หรือ นายสมเกียรติ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามจับกุมตัวในคดีอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ต่อมา วันที่ 1 ธ.ค. 2562 พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้อายัดตัวพระครูกิตติพัชรคุณ ตามหมายจับคดีเงินทอนวัด และพบว่าเกี่ยวข้องคดีเงินทอนวัดอีก 12 คดี ใน 12 วัด ความเสียหาย 28 ล้านบาท
ต่อมาศาล พิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปลงโทษ 13 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 39 ปี แต่ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 26 ปี
โดยขณะนี้ ทนายความ กำลังเตรียมคำร้องและหลักทรัพย์ เพื่อยื่นขอประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์