อดีต กกต.ประเมินหลังจากนี้จะมีการร้องเรียนการถือหุ้นสื่อของผู้สมัคร ส.ส. จำนวนมาก เพื่อหวังตัดคะแนนพรรคการเมือง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โพสต์เปรียบเปรยการเมืองไทยกับภาพยนต์ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ โดยใช้หัวข้อ "การดีดนิ้วทางการเมืองที่จะสลายผู้สมัคร ส.ส.ไปครึ่งจักรวาล" นายสมชัยชี้ให้เห็นประเด็นการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร
และลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายมาตีความ และบังคับใช้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการถือครองหุ้นสื่อ ที่จะดูเพียงวัตถุประสงค์การก่อตั้งในหนังสือจดทะเบียนบริษัท หากมีคำว่า "หนังสือพิมพ์" หรือ "สื่อมวลชน" แม้เป็นหนึ่งในร้อยข้อ ย่อมไม่ได้ แจะบริษัทจะไม่ได้ดำเินการด้ายสื่อก็ตาม
เชื่อว่า หลังจากนี้ ผู้สมัคร ส.ส. ที่หากเป็นนักธุรกิจครอบครองหุ้น จะต้องลุ้นว่า จะถูกร้อง และขุดคุ้ยการครองหุ้น รวมถึงวัตถุประสงค์การจดแจ้งบริษัทว่า มีเกี่ยวกับด้านสื่อหรือไม่ แม้จะไม่ได้ดำเนินกิจการสื่อก็ตาม
พร้อมประเมินว่า จะมีการตรวจสอบการถือหุ้นเกิดขึ้นอีกจำนวนมาก เพราะระบบเลือกตั้งใหม่ ทุกคะแนนมีความหมาย การขอให้ตรวจสอบ "ผู้สมัครที่แม้ไม่ชนะเลือกตั้ง" เพื่อ "สลายคะแนนทุกคะแนน" ที่จะสะสมเป็นคะแนนพรรคก็จะเกิดขึ้น
นายสมชัยปิดท้ายว่า การดีดนิ้วครั้งนี้ หรือว่า จะทำให้ ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.จะสลายไปครึ่งจักรวาล #โดมิโนทางการเมือง เริ่มต้นแล้ว
ด้านนายอภิชิต ถาบุตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้ง จ.สกลนคร ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐว่า ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตาม พรป.การเลือกตั้งมาตรา 42 จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนหรือไม่
พร้อมยื่นเอกสารเป็นหลักฐาน คือสำเนาหนังสือรับรอง และรายละเอียดวัตถุประสงค์ และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ณัฐฐินีย์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในข้อ 23 "ประกอบกิจการค้า ทำสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง"
ข้อ 24 "ประกอบกิจการเพื่อบริการรับทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท การตลาดและงานบันเทิงทุกประเภท", และข้อ 25 "ประกอบกิจการ รับเป็นที่ปรึกษาการจัดเก็บรวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท"
นายอภิชิต กล่าวว่า ต้องการเห็นมาตรฐานเดียวกัน จาก กกต.และหน่วยงานองค์กรอิสระต่างๆ ในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร และเอาผิดพรรคการเมือง อย่างที่อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สกลนคร ถูกตัดสินให้ขาดคุณสมบัติ
โดยอาศัยหลักฐานจากเพียงสิ่งที่ระบุอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทเพียงอย่างเดียว และมีกระแสข่าวว่า อาจนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 และมาตรา 86 เพราะไปเซ็นรับรองให้นายภูวเบศร์
นายอภิชิต กล่าวทิ้งท้ายว่า หากนายสมศักดิ์จะถูกตัดสินว่า ขาดคุณสมบัติแบบเดียวกันกับกรณีของนายภูวเบศร์ ก็จะต้องมีการดำเนินการกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในแบบเดียวกับที่กำลังจะเกิดขึ้นกับนายธนาธรด้วย เพราะนายอุตตมก็ได้เซ็นรับรองผู้สมัครพลังประชารัฐรายนี้ด้วยเช่นกัน