เด็กหญิงวัย 8 ขวบผูกคอตายปริศนา หลังไปอยู่บ้านพ่อ 1 เดือน แม่ไม่เชื่อลูกสาวจะก่อเหตุเอง ระบุผลชันสูตรศพเบื้องต้น ไม่พบรอยช้ำเขียวที่คอ
หญิงวัย 28 ปี นำภาพถ่ายลูกสาว น้องดา นามสมมุติ ขณะอายุ 4 ขวบ มาให้ทีมข่าวช่อง 8 ดู พร้อมเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส และไม่เคยมีภาวะซึมเศร้า จึงไม่เชื่อว่า ลูกสาวจะผูกคอตาย
หญิงวัย 28 ปี เล่าว่า เมื่อ 28 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์จากสามีที่เพิ่งแยกทางกันได้ 1 เดือน แจ้งว่าลูกสาวผูกคอตายในบ้านพักริมทางรถไฟของสามี ที่ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฆล จังหวัดนครปฐม แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังมากนัก
ภายหลังได้รับข้อมูลจากตำรวจว่า ลูกสาวใช้เชือกฟางผูกเป็นปม 3 ปม และขื่อห้องอยู่สูง ประกอบกับทางครอบครัวฝ่ายเธอเป็นชาวมุสลิม ขณะประกอบพิธีได้ทำความสะอาดร่างกายลูกสาว และผิดสังเกตุมีเลือดไหลออกบริเวณศีรษะ แต่คลำหาไม่พบบาดแผล จึงเชื่อว่า การเสียชีวิตของลูกสาวผิดปกติ
หญิงวัย 28 ปี ยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวอาศัยอยู่กับตนและยายที่บ้านพักในซอยอ่อนนุช 61 กรุงเทพฯ จนเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ฝ่ายสามีมารับลูกสาวไปโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่โทรมาบอกเพียงแค่ว่า “เอาลูกไปแล้วนะ”
ระหว่างนั้น ตนโทรพูดคุยกับลูกสาวอยู่บ้าง ไม่มีอะไรผิดปกติ จนวันเกิดเหตุครบ 1 เดือน ที่ลูกไปอยู่กับสามีพอดี
อีกด้านทีมข่าวไปพูดคุยกับพ่อเด็ก ยืนยันว่ารักลูกสาวและเสียใจกับเหตุดังกล่าว พร้อมเล่าว่าขณะเกิดเหตุไปขายของที่ตลาดสดสาย 5 หลังได้รับแจ้งจากญาติเป็นสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ห้องติดกันว่าลูกสาวผูกคอตาย และนำส่งโรงพยาบาล รวมทั้งแจ้งตำรวจ
ส่วนตัวก็ติดใจไม่เชื่อว่า ลูกสาวจะผูกคอตายเช่นกัน เพราะแม้แต่เชือกรองเท้าลูกก็ผูกไม่เป็น และหลังเกิดเหตุตำรวจนำญาติที่เป็นสามีภรรยาตรวจปัสสาวะพบฉี่สีม่วง จึงส่งดำเนินคดี แต่ยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกสาวหรือไม่
สำหรับคดีนี้ตำรวจระบุการตรวจสอบศพ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยผิดปกติ แต่ต้องรอผลชันสูตรอีก 60 วัน
ทีมข่าวสอบถามแพทย์หญิงชดาพิมพ์ เผ่าสวัสดิ์ จิตแพทย์เด็กและวัยสถาบันราชานุกูล ระบุว่า โอกาสที่เด็กจะฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะเด็กเล็กนั้นมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ส่วนใหญ่พบในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า ซึ่งปัจจัยมาจากเรื่องสิ่งแวดล้อมและครอบครัว ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้เด็กคิดสั้น คือพ่อแม่ต้องคอยสังเกตุลูกใกล้ชิด