รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบ อาวุธสงครามจำนวนมาก ที่พบในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ คาดเป็นอาวุธชนิดเดียวกันที่ก่อเหตุปี 2551-2553 ที่ยึดได้จากกลุ่ม "โกตี๋" ช่วงการชุมนุมทางการเมือง
วันที่ 7 มิ.ย. 2562 มีรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาวุธสงครามชนิดต่างๆ ทั้ง อาร์พีจี, ดินระเบิด เอ็ม 79, ปืนอาก้า, แก๊สน้ำตา และ เชื้อประทุ ที่พบบริเวณคลองส่งน้ำ บ้านขนุนเหนือ จ.ศรีสะเกษ
โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า อาวุธส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตในประเทศไทย แต่เชื่อว่ามีที่มาจากประเทศรัฐเซีย และกลุ่มสหภาพโซเวียต อาวุธสงครามนี้เป็นอาวุธเก่าแต่อยู่ในสภาพที่ใหม่พร้อมใช้งาน ซึ่งอาวุธบางชนิดเคยมีในประเทศไทยแต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ส่วนถุงปุ๋ยที่บรรจุอาวุธสงคราม พบว่า มีบางถุงมีอักษรและสัญลักษณ์ที่ไม่ใช่ของเมืองไทย จึงสั่งให้ตรวจสอบกับกรมศุลกากร และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ระบุว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า อาวุธปืนอาก้า, เอ็ม 79 และ อาร์พีจี เป็นระเบิดชนิดเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อประมาณปี 2553 - 2557 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่น บริเวณถนนอู่ทอง, ทำเนียบรัฐบาล และ โรงแรมดุสิตธานี รวมทั้งสิ้นกว่า 50 ครั้ง
หลังจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และคณะจะลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อน้ำที่พบอาวุธล็อตนี้ เพื่อสแกนพื้นที่อีกครั้ง โดยมีข้อมูลว่า บ่อน้ำที่พบอยู่ห่างจากเขตรอยต่อชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร
ด้าน พล.ต.อัครเดช บุญเทียม รองแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ตรวจพบอาวุธสงครามดังกล่าว เป็นพื้นที่รอยต่อชายแดนส่วนในคือถนนหมายเลข 24 ซึ่งเป็นเขตสู้รบช่วงที่ประเทศเพื่อนบ้านมีความขัดแย้งภายใน
โดยเป็นอาวุธในสมัยนั้น แต่ไม่ได้เป็นอาวุธที่ทางกองทัพบก ครอบครองอยู่ เพราะรุ่นเก่ามากกว่าประมาณ 40 ปี ส่วนที่สงสัยว่าอาจจะเกี่ยวโยงกับกลุ่มการเมืองในประเทศหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ก่อน