แม่พาลูกชายวัย 9 ขวบ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับครูวิชาประวัติศาสตร์ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดอ่างทอง หลังลูกชายถูกตบหน้า เนื่องจากเด็กตอบคำถามผิด เผยเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไป แค่ตีมือ หรือก้นก็พอ
หญิงอายุ 35 ปี พร้อม ลูกชาย วัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนประถมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง เพื่อดำเนินคดีกับครูสอนวิชาประวัติศาสตร์
เนื่องจากลูกชายถูกตบที่ใบหน้าด้านขวา จนเป็นรอยเส้นเลือดฝอยแตก และมีรอยเขียวที่คิ้วขวา
แม่เด็ก เล่าว่า ไปรับลูกชายที่โรงเรียน เห็นใบหน้าของลูกเป็นรอย จึงถามว่า ไปโดนอะไรมา แต่ลูก ตอบว่า เล่นกับเพื่อน แต่ตนพบพิรุธ และ ชื่อว่า รอยที่เกิดบนหน้าลูก ไม่ใช่รอยที่เกิดขึ้นจากมือเด็ก
จึงคาดคั้น และบอกว่า จะไม่ยอมพาไปให้อาหารสุนัขจรจัดด้วย เนื่องจากช่วงเย็นของทุกวัน ตนเองและลูกชาย จะนำอาหารไปให้สุนัขจรจัด ทำให้ลูกชาย กลัวไม่ได้ไป จึงยอมเล่าให้แม่ฟังว่า ถูกครูตบที่ใบหน้า ระหว่างเรียนวิชาประวัติศาสตร์
สาเหตุเพราะตอบคำถามที่ถามว่า ประเพณีอะไรเป็นของไทย ซึ่ง เด็กชาย ตอบว่า แห่นางแมว โดยครูบอกว่า ตอบผิด ก่อนที่จะใช้มือตบที่หน้าอย่างแรง ต่อหน้าเพื่อน ๆภายในห้องเรียน
แม่เด็ก ยอมรับว่า พอทราบเรื่อง รู้สึกโมโหมาก จนร้องไห้ออกมา และปรึกษากับญาติๆ ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า เป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไป จะตีก้น ไม่ว่าแต่ตบหน้าเด็ก มันไม่ใช่การลงโทษ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเด็กชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อตรวจร่างกายว่า ถูกทำร้ายมาหรือไม่ โดยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนรอผลจากแพทย์ พร้อมเตรียมเชิญครูคนดังกล่าว มาสอบสวนต่อไป