ลูกบ้านโครงการหมู่บ้านเดียวกับ "จ๊ะ อาร์สยาม" ที่นนทบุรี เริ่มกังวล กลัวรีไฟแนนซ์ไม่ได้ ล่าสุด เจ้าของโครงการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์แล้ว และนัดลูกบ้านร่วมหารือกับผู้ว่าฯ วันที่ 10 กรกฎาคมนี้
จากกรณีที่ "จ๊ะ อาร์สยาม" หรือนางสาวนงผณี มหาดไท ร้องเรียนกับทีมข่าวช่อง 8 ถามหาความรับผิดชอบ จากเจ้าของโครงการหมู่บ้านหรู ย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หลังซื้อบ้าน และจ่ายเงินจนหมดแล้ว แต่ไม่สามารถขายต่อได้ เพราะที่ดินกว่า 1,500 แปลงในหมู่บ้าน มีคดีฟ้องร้องกัน และถูกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีลูกบ้านได้รับความเดือดร้อนอีกหลายราย
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่หมู่บ้านดังกล่าวอีกครั้ง และได้พูดคุยกับนางสมหมาย แสงจันทร์ ลูกบ้านอีกหนึ่งราย เล่าว่า ตนและครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่นี่เกือบ 3 ปีแล้ว ส่งค่างวดเดือนละ 23,000 บาท และเตรียมจะรีไฟแนนซ์ แต่ก็มาเกิดปัญหา ตอนนี้ รู้สึกเครียดและกังวล แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่า เจ้าของโครงการฯ น่าจะมีทางออกที่ดี
ขณะที่จตุรภัทร ชุมพล นิติบุคคลในฐานะตัวแทนลูกบ้าน กล่าวว่า ตอนนี้เห็นความพยายามของโครงการ ที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการส่งหนังสือขอโทษและชี้แจง แม้จะรู้สึกดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นกังวล เพราะยังไม่มีการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม
จึงอยากให้เจ้าของโครงการ ดำเนินการให้รวดเร็วกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยาลูกบ้าน ที่อยู่ระหว่างซื้อ - ขาย หรือโอนกรรมสิทธิ์ เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย
ล่าสุด ทีมข่าวได้รับแจ้งว่า เจ้าของโครงการได้ตั้งสำนักงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ จากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว โดยแบ่งเป็น 3 หมู่บ้าน 3 ประเภท
โดยลูกบ้าน ต้องนำสำเนาบัตรประชาชน มาเขียนคำร้องด้วยตัวเองว่า ได้รับความเสียหายประเภทได้ ประกอบด้วย อยู่อาศัยปกติ / ต้องการรีไฟแนนซ์ / หรือกำลังจะซื้อ - ขายโอนกรรมสิทธิ / เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ส่งเรื่องไปยังผู้บริหารโครงการ นำไปพิจารณาหาทางแก้ไขต่อไป พบว่า วันแรกเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) มีผู้มาลงชื่อแล้วกว่า 30 ราย
จากนั้น ทีมข่าวได้ไปสอบถามเรื่องคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของศาลล้มละลายกลาง กับนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งอธิบายว่า เรื่องแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงต้องรอข้อมูลจากบริษัทเอกชนเจ้าของโครงการ และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ว่าเป็นอย่างไร
สำหรับลูกบ้านที่ชำระหนี้จนครบแล้ว สามารถไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ ในฐานะเจ้าหนี้ของบุคคลล้มละลายได้ ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 2 เดือน นับตั้งแต่วันเกิดสิทธิ
ทั้งนี้ ทางนิติบุคคลของโครงการหมู่บ้านหรูดังกล่าว ได้นัดลูกบ้านผู้เสียหาย จำนวน 1,156 หลังคาเรือน มูลค่าทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท ร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในวันที่ 10 กรกฎาคม นี้ เพื่อให้ช่วยหาทางแก้ไขปัญหา
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น คือ บริษัทที่ 1 ฟ้องร้องบริษัทที่ 2 ช่วงปี 2544 ถึง 2545 นำไปสู่คำสั่งล้มละลาย และเข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์ ในปี 2552
โดยก่อนที่ศาล จะมีคำสั่งบริษัทที่ 2 ได้ขายที่ดินทั้งหมดไป เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 และเปลี่ยนมือไปยัง 2 บริษัทในวันเดียว (คือบริษัท ที่ 3 และ 4)
กระทั่งบริษัท ที่ 4 นำที่ดินไปจัดสรรสร้างหมู่บ้าน ในปี 2553 จากนั้น เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ได้ติดตามหาทรัพย์สินของบริษัทที่ 2 กระทั่งเจอโฉนดที่ดิน 1,156 ฉบับ ที่เป็นบ้านจัดสรรในปัจจุบัน