เจ้าหน้าที่ชุดศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว เเละป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ซึ่งมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ เรตำรวจเเห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ร่วมกับ พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ รอง ผบก.ตม 6., ตำรวจภูธรภาค9นำโดย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภาค9 , เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายเเดนกองร้อยตชด.437 เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.42,ตม.6,ปคม. ติดตามไล่ล่ารถยนต์เอนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ป้ายแดง หมายเลขทะเยน 0752 ภูเก็ต หลังจากที่สืบทราบว่า ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นแรงงานเถื่อนมาเต็มคันรถ

ก่อนที่จะสกัดจับได้บนถนนสายเอเชียน เส้นทางระระหว่างเเยกคูหา-บางกล่ำ หมู่ที่ 2 ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานอนอัดแน่นกันมาเต็มรถจำนวน 8 คน เป็นชาย 6 คน และหญิง 2 คน โดยมีทั้งที่อยู่ในห้องโดยสาร และที่กระบะหลังตรงฝาท้าย นอกจากนี้ยังจับกุมคนขับ และผู้นำพา ซึ่งเป็นผู้หญิงชาวไทยได้อีก 2 คน ซึ่งอยู่ในเครือข่ายค้ามนุษย์

จากการสอบสวนคนขับทราบว่า ได้รับแรงงานต่าวด้าวมาจากแยกโคกกลอย ต.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยมีนายหน้าชาวเมียนมานำมาส่งให้ และจะพาไปส่งที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา และจะมีคนมารับช่วงต่อเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย ได้รับค่าจ้างหัวละ 1,100 บาท โดยขนมาแล้วประมาณ 10 เที่ยว ขณะที่แรงงานต่างด้าวทั้ง 8 คน ทราบว่าเดินทางมาจากเกาะสอง ประเทศเมียนม่า ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จ.ระนอง

หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานต่างด้าว และคนไทยทั้งสองคนไปทำการสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อว่าจะยังคงทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงหลังพบว่าเริ่มมีชาวโรฮินจาเข้ามาด้วย ส่วนสาเหตุที่มีแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมากแม้จะปราบปรามและจับกุมอย่างหนักในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมาเลเซียต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากในภาคการเกษตรและประมง จึงเป็นช่องทางให้เครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติลักลอบขนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยหากเป็นชาวเมียนมาจะมีค่าหัวคนละ 20,000 บาท แต่หากเป็นชาวโรฮินจาก็จะสูงขึ้น 3 เท่า หรือราว 5-60,000 บาท

 

Cr.ปรีชา/สงขลา