ปู่เปิดใจรับไม่ได้ หลังหลานสาววัย 5 ปีถูกแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยงรุมทุบตี จนตาบวมปิด ล่าสุดคดีส่อพลิก หลังพ่อเลี้ยงกลับคำให้การ คนที่ทำร้ายตัวจริงคือแม่แท้ๆ
ปู่อายุ 76 ปี เปิดใจทั้งน้ำตา หลังหลานสาวอายุ 5 ปี ถูกแม่แท้ๆ อายุ 23 ปี และพ่อเลี้ยงอายุ 25 ปี ทุบตีตามใบหน้า จนดวงตาสองข้างบวมปูด ตาปิด เขียวช้ำ ภายในบ้านพัก ซอยเพชรหึงษ์ 21 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยเมื่อวานนี้ เพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องไห้อย่างน่าเวทนา จึงแจ้งตำรวจและกู้ภัย บุกเข้าไปช่วยเหลือ
ปู่บอกว่า เลี้ยงหลานมาตั้งแต่เกิด เรียกตนว่า พ่อทุกคำ ส่วนแม่ของเด็กมีสามีใหม่ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มารับหลานไป อ้างว่า จะขอพาไปเที่ยว แต่สุดท้ายไม่ยอมพามาส่งคืน แถมยังกล่าวหาว่า ตนตีหลานรุนแรงด้วย ตนรับไม่ได้กับพฤติกรรมนี้ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจากนี้ ตนจะไปรับหลานมาดูแลเอง
ด้านตำรวจภูธรพระประแดง บอกว่า จากการสอบปากคำทั้งคู่ พบพิรุธหลายอย่าง โดยแม่ อ้างว่า เด็กตกบันไดบ้านเอง ส่วนที่ไม่พาไปหาหมอ เพราะไม่มีเงิน ยอมรับว่า ที่ผ่านมา เคยตบตีบ้างหากดื้อ แต่ไม่รู้มาก่อนว่า พ่อเลี้ยงก็ตบตีลูก
ส่วนพ่อเลี้ยง ยอมรับว่า ตบเบ้าตาทั้งสองข้างของเด็กจริง เพราะจับได้ว่า ไปขโมยของ จึงสั่งสอนให้หลาบจำ ทำไปเพราะรักเหมือนลูกแท้ๆ แต่สุดท้ายเมื่อถูกเค้นสอบอย่างหนัก ล่าสุด พ่อเลี้ยงกลับคำให้การว่า คนทำตัวจริงคือแม่แท้ๆ
แต่ยอมรับสารภาพไป เพราะรักภรรยา อีกทั้งมีพยานยืนยันว่า วันเกิดเหตุพ่อเลี้ยงไม่ได้อยู่บ้าน และเมื่อวานนี้ ก็เป็นคนเปิดประตูให้ชาวบ้านมาช่วยลูกเลี้ยงเอง
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะต้องเรียกพยานมาสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมรอผลการรักษาของเด็ก แต่ล่าสุด ทราบว่าแม่แท้ๆ ของเด็กหนีไปแล้ว
ส่วนอาการของเด็กขณะนี้ นายแพทย์วันฉัตร ชินสุวาเทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางจาก บอกว่า พบบาดแผลฟกช้ำทั่วศรีษะ และใบหน้า หนักที่สุดคือตาสองข้าง กังวลเรื่องการมองเห็นมาก จึงส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลราชวิถี ส่วนสภาพจิตใจของเด็ก ร่าเริงตามวัย พูดคุยได้ตามปกติ