ผู้ต้องหาฆ่าคนงานบ้านตลกชื่อดัง "แจ๊ส ชวนชื่น" เข้ามอบตัว ที่ สน.มีนบุรี แล้ว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สอบสวนสารภาพลงมือก่อเหตุ เพื่อป้องกันตัว
กรณีนายพรชัย ดีเสือ คนงานในบ้านของนายผดุง ทรงแสง หรือ แจ๊ส ชวนชื่น ศิลปินตลกชื่อดัง ถูกคนข้างบ้าน ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุ ไปขับรถเฉี่ยวชน รถเพื่อนของ นายพรชัย (ผู้ตาย) เหตุเกิด เมื่อช่วงตี 1 วานนี้ (14 ก.ค.)
ล่าสุด นายเสฎฐวุฒิ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายพรชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจครบาลมีนบุรี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมแม่และภรรยา หลังหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้างแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา จากนั้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนจะส่งให้ชุดสืบสวนในคดี สอบปากคำอย่างละเอียด
ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าว ก่อนเข้ามอบตัวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเข้ามอบตัว เพราะไม่อยากให้ ภรรยา แม่ และ ลูก ต้องเดือดร้อนกับสิ่งที่ตนกระทำลงไป เพราะขาดสติ พร้อมเล่าว่า ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถเพื่อนของผู้ตาย หลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชน ตนได้ขับรถยนต์ กลับเข้ามาในบ้าน เพื่อจะนำรถจักรยานยนต์ ขับกลับออกไปดูคู่กรณี
ระหว่างทางเข้าบ้าน เห็นผู้ตาย นั่งกินเหล้าอยู่กับกลุ่มเพื่อน ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน พบว่า ผู้ตาย มายืนดักรออยู่หน้าบ้าน ตะโกนด่าตน ด้วยคำหยาบคาย และมีอาการมึนเมา เข้ามาหาเรื่องตนในบ้าน
ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เจตนาที่จะฆ่าใครให้ตาย ไม่ได้ทุ่มกระถางต้นไม้ใส่ผู้ตาย เพียงแต่หยิบอะไรได้ก็เขวี้ยงออกมา พร้อมขอโทษครอบครัวผู้ตายด้วย
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คนในบ้านของผู้ต้องหา เคลื่อนย้ายศพผู้ตาย ออกจากหน้าบ้านของตัวเอง ไปที่หน้าบ้านของ "แจ๊ส ชวนชื่น" แม่ของผู้ต้องหา ชี้แจงว่า ไม่ได้เคลื่อนย้ายศพ แต่เป็นการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ยืนยันว่า ตนเอง เป็นคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเอง เพราะได้ถามคนในบ้านของ "แจ๊ส ชวนชื่น" ว่า รู้จักกับผู้บาดเจ็บหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้จัก ตนจึงให้ลูกสะใภ้ โทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย
และประเด็นที่อ้างว่า ลูกชายของตนพยายามใช้ระเบิดขวด ขว้างใส่รถตู้ ที่จอดอยู่หน้าบ้าน เพื่อจะให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และ ท้าให้ "แจ๊ส ชวนชื่น" เอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย จะได้ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
แม่ของผู้ต้องหา ยังเปิดเผยอีกว่า กระแสข่าวที่ระบุว่า ตนเป็นคนพาลูกชายหนี ไม่เป็นความจริงเช่นกัน โดยตนตัดสินใจโทรศัพท์พูดคุยกับลูกชาย ให้เข้ามอบตัวเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และ อยากขอให้สังคม ฟังความทั้งสองด้านกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ยอมรับว่า ทั้งสองบ้านมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน จากกรณีบ้านของ "แจ๊ส ชวนชื่น" นำรถยนต์มาจอดกีดขวางทางเข้าออกอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ไม่ได้รับความสะดวก เมื่อเวลาเข้าออกบ้าน ซึ่งกรณีนี้คือปัญหาเก่าๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ด้านแม่ยายของแจ๊ส ชวนชื่น บอกว่า รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่บ้านมีแต่ผู้หญิงกับเด็ก กลัวว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย ยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหากับบ้านผู้ก่อเหตุ มีแต่ผู้ก่อเหตุจะมาหาเรื่อง เพราะเป็นคนอารมณ์ร้ายและรุนแรง
ทั้งนี้ หลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัว มีตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ คุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า วันนี้ (15 ก.ค.) จะมีคำชี้แจงจากตำรวจ สน.มีนบุรี ว่า สาเหตุที่แท้จริงของเรื่อง เกิดขึ้นจากอะไร เพราะทั้งสองฝ่ายยังให้ข้อมูลไม่ตรงกัน