ทุกภาคส่วนในจังหวัดต่างๆ เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สำรวจเหมืองหินเก่า และหาเส้นทางผันน้ำ ไปผลิตประปา แก้วิกฤติแล้ง
นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยพลตรี รณกร ปานกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ร่วมั้ง เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขึ้นบินสำรวจเหนืออ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด บ่อหินเก่าของภาคเอกชน และเส้นทางผันน้ำจากบ่อหินเก่าไปเติมอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยหน่วยงานต่างๆ เร่งวางกระสอบทรายให้แล้วเสร็จ เพื่อเดินเครื่องสูบน้ำภายในสิ้นเดือน กรกฎาคม 2562 นี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงต่อเนื่องหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้อ่างเก็บห้วยตลาด และอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก แห้งขอด ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปา รวมทั้ง พื้นที่เพาะปลูกได้รับผลกระทบไปด้วย
หน่วยงานต่างๆ พยายามแก้ไขปัญหา เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปให้ได้ ขณะนี้ ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งภาคเอกชน กำลังเร่งดำเนินการสูบน้ำจากบ่อหินเก่า ที่มีอยู่หลายบ่อ ไปเติมอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ให้สามารถผลิตน้ำประปาต่อไปได้
ส่วนในระยะยาว ทางประปาส่วนภูมิภาค จะทำระบบ Mobile Unit ผลิตน้ำประปาที่บ่อหินส่งเข้าระบบจ่ายน้ำได้ทันที ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3-4 เดือน
ส่วนในด้านการเกษตร ขณะนี้เริ่มมีฝนตกลงมาบ้าง ทำให้พื้นที่เพาะปลูกเริ่มมีสีเขียวขึ้นแล้ว รวมทั้งยังได้ประสานขอฝนหลวง หากสภาพอากาศเหมาะสม ก็จะดำเนินการทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรต่อไป
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายศักรินทร์ เสมหิรัญ นายอำเภอโนนไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง และหาทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในพื้นที่อำเภอโนนไทย
พร้อมทั้งตรวจดูการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกล ไปยังอ่างเก็บน้ำหนองกก ไปสู่บึงสระจระเข้ เพื่อให้ประชาชน ในพื้นที่ตำบลโนนไทย มีน้ำใช้ หลังจากบึงสระจระเข้แห้งขอดไม่มีน้ำในการผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้กับประชาชน
นอกจากนี้ ทางเทศบาลตำบลโนนไทย ได้มีการนำป้ายมาติดประกาศห้ามประชาชนสองฝั่งคลอง ที่มีการผันน้ำสู่บึงสระจระเข้ ลักลอบสูบน้ำเข้าพื้นที่ทำการเกษตรเป็นอันขาด เนื่องจากน้ำที่ผันมาจากอ่างเก็บน้ำหนองกก ต้องเก็บไว้ใช้ เพื่ออุปโภคบริโภคเท่านั้น ห้ามใช้ในการเกษตร ในช่วงหน้าแล้งนี้
ขณะเดียวกัน ทางอำเภอโนนไทย ได้มีการประชาชนสัมพันธ์ให้เกษตรกรชะลอทำการเกษตรไปก่อน เพื่อป้องกันความเสียหาย จนกว่าจะผ่านวิกฤตฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอโนนไทย มีพื้นที่การเกษตรเสียหาย แล้วกว่า 100 ,000 ไร่