ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุสูดดมก๊าซไข่เน่า ขณะลงไปซ่อมท่อบำบัดน้ำเสีย จนเสียชีวิต 3 คน สาหัส 1 คน พบค่าสูงเกิน 200 พีพีเอ็ม ซึ่งส่งผลต่อสมอง ทำให้สลบทันที
ตำรวจภูธรคลองแงะ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และ ติดตามความคืบหน้า กรณีคนงานซึ่งลงไปซ่อมท่อระบบบำบัดน้ำเสียภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ในตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโรงงานส่งออกน้ำยางข้นไปต่างประเทศ เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน คาดสาเหตุ น่าจะเกิดจากการสูดดมก๊าซไข่เน่า หรือก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่เกิดจากระบบบำบัดน้ำเสียเข้าไป
ทั้งนี้ ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดความเข้มข้น ของมลพิษทางอากาศ ภายในท่อระบบบำบัดน้ำเสีย พบสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า สูงเกินกว่า 200 พีพีเอ็ม (ppm) ซึ่งส่งผลต่อร่างกาย ทำให้สมองสูญเสียความสามารถในการสั่งงาน จึงทำให้ผู้ประสบเหตุหมดสติทันทีที่ลงไปในท่อ และยังพบรอยใบไม้ไหม้ รอบๆ จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของก๊าซด้วย
ส่วนในทางคดี พนักงานสอบสวนจะเรียกพยานแวดล้อมมาสอบสวนเพิ่มอีก 3 คน เพื่อระบุสาเหตุว่า เป็นเพราะอุบัติเหตุ หรือความบกพร่องของโรงงาน และผู้รับเหมา ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ จะเชิญตัวแทนโรงงานเข้าชี้แจง พร้อมแถลงรายละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายสุวิทย์ โจมชู อายุ 31 ปี นายสาธิชล ลิ้มแจ้ง อายุ 31 ปี นายสมคิด ดำเกลี้ยง อายุ 43 ปี เป็นคนงาน และเป็นญาติพี่น้องกัน ญาติเตรียมนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามภูมิลำเนา
ด้านนายสานิต อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นผู้รับเหมา แพทย์สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ แต่อาการยังน่าเป็นห่วง ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เข้าไปให้การช่วยเหลือครอบครัว ของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน รวมถึงผู้บาดเจ็บ ตามระเบียบของทางราชการอย่างดีที่สุด