หญิงสาวแม่ลูกอ่อน เครียดปัญหาชีวิต โพสต์คลิปขู่จะฆ่าลูกและตัวเองลงเฟซบุ๊ก ทีมข่าวช่อง 8 พูดคุยประวิงเวลา จนมีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ
หญิงคนหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์ ใช้เชือกรัดคอลูกวัยประมาณ 1 ขวบ แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า จะฆ่าลูก ก่อนที่จะฆ่าตัวเองตายตาม โดยเขียนข้อความบรรยายว่า ตอนนี้จะเอาเข็มขัดรัดคอลูกให้ตาย ต่อไปแม่จะผูกคอตาย ส่วนเจ้าหนี้ที่ติดเงินอยู่ให้ไปเก็บเงินงานที่งานศพ
หลังทีมข่าวช่อง 8 เห็นคลิปนี้ ก็รีบติดต่อไปที่เบอร์โทรศัพท์ ที่ปรากฏในเฟซบุ๊กดังกล่าว พบว่า เป็นเบอร์ของคนขับแท็กซี่ที่หญิงสาวใช้บริการบ่อยครั้ง จึงได้ขอเบอร์ของหญิงคนนี้ และรีบติดต่อไป
หญิงที่ก่อเหตุรับสาย บอกด้วยเสียงสั่นเครือว่า อยู่กับลูกวัย 1 ขวบ 7เดือน ที่บ้านในจังหวัดขอนแก่น ส่วนลูกคนอื่นๆอยู่ที่โรงเรียน ไม่มีใครอยู่บ้าน โดยบอกด้วยว่า ตอนนี้ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน และขายทุกอย่างในบ้านแล้ว จึงคิดว่า ตายไปเลยจะดีกว่า เพราะตนมีเงินประกัน
ทีมข่าวจึงพยายามพูดคุยถ่วงเวลาและถามที่อยู่ ระหว่างนั้น ทีมข่าวได้แจ้งไปที่ตำรวจในพื้นที่ ให้รีบเข้าไปดูเหตุการณ์
ผ่านไปเกือบ 20 นาที น้องสาวของหญิงคนดังกล่าว เข้ามาที่บ้าน เพราะมีคนส่งรูปขณะทำร้ายลูกให้ดู ทีมข่าวจึงวางใจว่า มีญาติดูแล และเด็กปลอดภัย
สอบถามคุณนุชนาฎ ผ้าผิวดี บรรณาธิการข่าวสังคม ช่อง 8 ถึงการตัดสินใจโทรไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ และรับฟังปัญหา จนในที่สุดไม่เกิดเหตุสูญเสีย คุณนุชนาฎบอกว่า ในตอนแรกให้ทีมข่าวที่เป็นผู้ชาย โทรไปคุยกับผู้ก่อเหตุ
แต่เห็นว่า ตนเป็นผู้หญิง น่าจะคุยเข้าใจกันมากกว่า ตนจึงใช้ความเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ คุยกับหญิงดังกล่าว โดยให้ระบายถึงปัญหา บอกให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งทำอะไร และคุยต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่า เด็กยังปลอดภัย
ล่าสุด ทางตำรวจในพื้นที่ได้เข้าช่วยเหลือแม่และเด็กเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
โดยแม่เด็กบอกว่า ก่อเหตุเพราะน้อยใจที่สามี ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ปัจจุบันทำงานอยู่ที่พัทยา ไม่สนใจครอบครัว และไม่สนใจบุตรชาย ไม่ยอมเดินทางมาหา หรือส่งเสียเงินมาใช้จ่าย
โดยก่อนเกิดเหตุนั้น ได้ไปขอนมโรงเรียนจากทาง อบต.มาเลี้ยงลูก แต่ก็ได้มาในจำนวนที่จำกัด จึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
ขณะที่นายชินกร แก่นคง นายอำเภอภูผาม่าน ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองประสานงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ให้ความช่วยเหลือเด็ก ในเบื้องต้นได้จัดหานมโรงเรียนและนม จากทาง อบต.วังสวาบ มาให้รับประทานก่อน
รวมไปถึงการจัดหางบประมาณในการซื้อแพมเพิส และการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยการบำบัดการติดสุราของแม่เด็ก การนำเด็กเข้าสู่การเรียนการสอนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน