ขบวนรถไฟสายใต้บรรทุกผู้โดยสารกว่า 300 คน ประสบอุบัติเหตุตกราง ที่ อ.ชะอำ โชคดีไม่มีมีใครได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นพบสาเหตุเกิดจากมีคนร้ายมางัดขโมย "ตะปูยึดราง" หายไป จนทำให้รถไฟตกราง
ผู้โดยสารทั้งเด็ก และผู้ใหญ่กว่า 300 คน ต้องแบกสัมภาระของตัวเอง ลงจากขบวนรถไฟเลขที่ 255 วิ่งระหว่างธนบุรี-หลังสวน เพื่อไปรอหลบแดดหลบในอุโมงค์ หลังขบวนรถไฟเกิดเสียหลักวิ่งไถลตกราง ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะรถไฟขบวนดังกล่าว มุ่งหน้าออกจากสถานีห้วยทรายใต้ อ.ชะอำ เพื่อเข้ายังสถานีรถไฟหัวหิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ขบวนโบกี้เกิดตกราง คาดว่า เกิดจากดินรองฐานรางรถไฟ เกิดทรุดตัว ทำให้รางถ่างออกเป็นเหตุให้ขบวนรถไฟ 6 โบกี้ ที่กำลังวิ่งมาตกรางดังกล่าว แต่ 2 โบกี้แรก ยังสามารถวิ่งต่อไปได้
ส่วนขบวนรถไฟที่ตกค้าง เจ้าหน้าที่ดำเนินการเคลื่อนย้ายยกโบกี้รถไฟ ออกจากราง และจะทำซ่อมแซมราง โดยฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมทีมวิศวกร ทีมช่าง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า จานรองราง และเครื่องยึดเหนี่ยวราง ที่เรียกว่า ตะปูยึดราง ซึ่งทำจากเหล็กถูกถอดออกไปจนหมดทั้งสองฝั่ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้รถไฟตกราง
ตรวจสอบ พบว่า "ตะปูยึดราง" หายไป 168 ตัว ส่วนเหล็กจานรองราง มีน้ำหนักจานละเกือบ 3 กิโลกรัม หายไปทั้งหมด 20 ตัว ซึ่งการถอดออก จะต้องใช้ชะแลง และเครื่องมือชนิดพิเศษที่มีใช้เฉพาะการรถไฟฯ ซึ่งคนร้ายไม่น่าจะลงมือคนเดียว และน่าจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี
โดยมาขโมยเหล็กจานรองราง และตะปูราง ในช่วงเช้ามืด ก่อนเกิดเหตุ เพราะบริเวณดังกล่าว มีการก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ ทำให้ไม่มีใครสงสัย เพราะคิดว่า เป็นคนงานเข้าไปทำงานตามปกติ ซึ่งมูลค่าความเสียหายครั้งนี้ หลายล้านบาท
เบื้องต้น สันนิษฐานว่า คนร้ายที่มาก่อเหตุขโมยชิ้นส่วนรางรถไฟ น่าจะนำเหล็กไปขาย หรืออาจจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่พอใจ หรือได้รับผลกระทบการก่อสร้างของการรถไฟฯ
สำหรับความคืบหน้าการซ่อมแซมราง ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังเร่งกู้ขบวนรถไฟทั้ง 6 คัน เพื่อเปิดเดินรถให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งระดมรถซ่อมบำรุงทางจากฝ่ายการช่างโยธา หน่วยกู้ภัยม้าเหล็ก บางซื่อ.และ ธนบุรี และใกล้เคียง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการเดินรถกว่า 150 คน เข้าซ่อมแซมเปลี่ยนหมอนรถไฟ เปลี่ยนราง ที่เสียหาย ระยะทางรวมทั้งสิ้น 300 เมตร
ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดรถบัส 5 คัน ขนถ่ายผู้โดยสารที่จองตั๋วขาเข้า กทม.ซึ่งตกค้างอยู่กว่า 200 คน ไปส่งยังสถานีปลายทางแล้ว
ขณะที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ และหารอยนิ้วมือแฝง เพื่อหาเบาะแสคนร้าย โดยในวันนี้ (20 ส.ค.) ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เรียกประชุมตำรวจจังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเร่งคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด