น้องบีมเหยื่ออุบัติเหตุรถบรรทุกชนและแม่ เริ่มท้อแท้หมดหวัง ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังต่อสู้คดีมานานกว่า 15 ปี และวันนี้ ศาลรับคำร้องขอฎีกาฝ่ายจำเลย ทำให้คดีต้องยืดเยื้อออกไปอีกไม่รู้กี่ปี

เป็นอีกคดีที่ถือว่า ต่อสู้กันยืดเยื้อมากว่า 15 ปี ระหว่างนางพรทิพย์ จันทรัตน์ และ ด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม ฟ้องร้องบริษัทขนส่งเจ้าของรถเทเลอร์ ที่เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ที่ทั้งคู่นั่งกลับบ้าน ทำให้พ่อเสียชีวิต และตัวน้องบีมเดินไม่ได้ต้องนั่งวีลแชร์ ส่วนแม่ใส่เหล็กดามทั้งตัว

โดยวันนี้ ทั้งคู่พร้อมผู้สื่อข่าวช่อง 8 ของเรา พากันไปไหว้ พระธาตุไชยา สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังศาลจังหวัดไชยา มีคำสั่งรับคำร้องขอฎีกาจากทางฝั่งบริษัทขนส่งดังกล่าว ทำให้การต่อสู้คดีต้องยืดเวลาไป 1 - 5 ปี

ทั้งคู่เปิดใจกับผู้สื่อข่าวช่อง 8 สะท้อนความรู้สึกเริ่มท้อแท้ และเหนื่อยกับการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และสูญเสียหลายโอกาสในชีวิต

สำหรับคำสั่งศาลที่รับคำร้องฎีกาฝ่ายจำเลย ทนายจากสภาทนายความ อธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะการรับคำร้องฎีกาในคดีแพ่ง ซึ่งศาลท่านพิจารณาว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย

เนื่องจากคดีนี้ บริษัทขนส่งเจ้าของรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุ เคยจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้กับแม่และน้องบีม จำนวน 5 ล้านบาท แต่กลับถูกทนายความคนก่อน โกงเงินทั้งหมดไป และทนายความคนนั้น ได้ถูกจับกุมฟ้องล้มละลาย

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่ให้ผู้เสียหายฟ้องเรียกเงินชดใช้ จากทนายคนที่โกง สภาทนายความบอกว่า คณะทำงานพิจารณาเห็นว่า หากฟ้องเพื่อเรียกเงินเยียวยาอีกครั้งกับบริษัทรถบรรทุก จะมีโอกาสได้เงิน มากกว่าฟ้องทนายคนที่โกงเงินไป

ขั้นตอนหลังจากนี้ ทางสภาทนายความ จะยื่นค้านฎีกา และขอขยายระยะเวลาการพิจารณาคำสั่งศาลเพิ่ม จากเดิม 15 วันเป็น 45 วัน ในการรวบรวมเอกสารยื่นประกอบคำคัดค้าน

"แม่น้องบีม" หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังสู้คดี 15 ปี ไม่ชนะ