ตำรวจคุมตัวน้ำอุ่นวิ่งขึ้นรถตู้ไปชี้จุดประกอบคำให้การที่บ้านบางบัวทอง ขณะที่น้ำอุ่นให้การภาคเสธ ไม่รู้ลันลาเบลตาย คิดว่าแค่เมาหลับไป

นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น พริตตี้บอย วัย 24 ปี ถูกตำรวจ สน.บุคคโล พาตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่บ้านจัดงานปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง หลังตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีการเสียชีวิต นางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล พริตตี้สาว วัย 25 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีใน 3 ข้อหา คือ "หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พาไปเพื่อกระทำอนาจาร และกระทำอนาจาร"

โดยน้ำอุ่นสวมแว่นกันแดดสีดำ และหน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า วิ่งขึ้นรถตู้ ออกไปกับทนายความส่วนตัวทันที ไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด และเห็นได้ชัดว่ามีอาการอ่อนเพลีย หลังถูกสอบเข้มนานกว่า 10 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ กลางดึกที่ผ่านมา ขณะตำรวจนำหมายศาลเข้าไปจับกุมที่คอนโด พบว่าน้ำอุ่น ไม่ยอมเปิดประตูห้อง และได้โทรเรียกพ่อแม่ให้พาหนี จนตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ที่ ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาฯ - ท่าพระ ห่างจากคอนโดของน้ำอุ่น เพียง 1 - 2 กิโลเมตร พร้อมกับแม่ของน้ำอุ่น

พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สอบปากคำน้ำอุ่นด้วยตนเอง ระบุว่า น้ำอุ่น ให้การภาคเสธว่า ตัวเองเป็นบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุตามภาพถ่ายและคลิปวงจรปิดคอนโดจริง แต่ไม่มีเจตนาจะทำให้ลันลาเบลถึงแก่ความตาย และ ไม่ทราบว่าลันลาเบลเสียชีวิตแล้ว

ส่วนเหตุผลที่ไม่พาไปโรงพยาบาลนั้น เพราะ คิดว่าลันลาเบลเมาจนหมดสติไปเท่านั้น ซึ่งนายน้ำอุ่น ระบุว่า เพิ่งมาทราบว่าเสียชีวิต หลังจากญาติพี่น้องของเบลติดต่อมาบอก ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิทธิที่น้ำอุ่นจะปฏิเสธได้ แต่ตำรวจก็มั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดน้ำอุ่นตามที่แจ้งข้อหาได้

ส่วนข้อหากระทำอนาจารนั้น ก็มีพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าลันลาเบลไม่ได้สมัครใจที่จะไปต่อกับนายน้ำอุ่น ส่วนเรื่องจะแจ้งข้อหาพ่อกับแม่นายน้ำอุ่นหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาอีกครั้ง ว่า ทั้ง 2 มีเจตนาพานายน้ำอุ่นหลบหนีหรือไม่

นอกจากนี้ ประเด็นที่สำคัญ คือ ตำรวจจะต้องสอบปากคำแพทย์นิติเวชอีกครั้ง ว่า จะสามารถระบุ ช่วงเวลาที่ลัลลาเบลเสียชีวิตได้หรือไม่

และจะเร่งขยายผลว่าคดีนี้มีผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มหรือไม่ พร้อมยอมรับว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ในงานปาร์ตี้ที่บ้านบางบัวทอง อาจมีโอกาสจะถูกดำเนินคดีด้วย

ส่วนเรื่องที่กระแสโซเชียลพูดถึงการทำงานของตำรวจ ว่า ทำงานช้าและแจ้งข้อหาเบาเกินไป พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ยืนยัน การทำงานต้องมีความรัดกุมในเรื่องของพยานและหลักฐาน ซึ่งข้อหาหลักอย่าง หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากอิสรภาพทางร่างกาย ถึงแก่ความตาย ก็มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต โดยวันพรุ่งนี้จะคุมตัว น้ำอุ่นฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีต่อไป

ขณะที่ความคืบหน้า ด้านการสืบสวนบ้านงานจัดปาร์ตี้ที่บางบัวทอง ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน มีผู้เสียหายเป็นหญิงพริตตี้ 2 คน ได้เข้ามาร้องทุกข์ให้ปากคำ ว่า ถูกกระทำอนาจาร เนื่องจากไปรับงานที่บ้านหลังดังกล่าว และ ไม่รู้ตัวว่านอนหลับไปตอนไหน ซึ่งเมื่อตื่นขึ้นมากับพบ ว่า ถูกถอดเสื้อผ้าจนหมด เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับใคร เพราะ พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ

พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมสำนวนให้รัดกุมที่สุด พร้อมเปิดเผย ว่า มีผู้กระทำผิดรายใหม่ในเรื่องกระทำการอนาจาร ที่ไม่ใช่น้ำอุ่น มากกว่า 1 คน

ขณะที่ผงผลึกสีขาวที่ยึดได้จากบ้านงานปาร์ตี้นั้น จากผลการตรวจทางเคมีเบื้องต้น ไม่ใช่สาร เมทแอมเฟตามีน แต่ทั้งนี้ต้องส่งให้กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขตรวจคัดแยก ระบุ ชื่อสารให้ละเอียดอีกครั้ง

เพื่อจะนำไปประกอบสำนวน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดภายในงานปาร์ตี้ที่เกิดขึ้นในท้องที่ สภ.บางบัวทอง ต่อไป