เรื่องราวของ "เสี่ยกำมะลอ" หลอกสาวบุรีรัมย์ แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ พร้อมทิ้งหนี้ก้อนโตยังไม่จบ ล่าสุด มีเหยื่อออกมาแฉว่า เคยถูกจ้างให้ทำรายการโทรทัศน์ ก่อนลอยแพพนักงานร่วม 14 ชีวิต มูลค่าความเสียหายหลักล้าน
วันที่ 4 ตุลาคม 2562 ความคืบหน้ากรณี เสี่ยกำมะลอ หรือเสี่ยท็อป หลอกสาวชาวบุรีรัมย์ ให้แต่งงานด้วยโดยจัดงานแต่งสุดหรู ก่อนหลบหนีทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้เจ้าสาว ล่าสุดมีคนออกมาแฉอีกว่า เคยถูกนายท็อป หลอกให้ทำงาน ก่อนเบี้ยวไม่จ่ายเงินเดือนติดกันหลายเดือน ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว
โดยหญิงสาวคนดังกล่าว ยืนยันกับทีมข่าวว่า เพิ่งเห็นข่าวนายท็อป และจำได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เคยหลอกตนและทีมงาน เมื่อ 7 ปีก่อน โดยตนและทีมงานรวม 14 คน ถูกนายท็อป จ้างให้ทำรายการกว่า 20 เทป เพื่อเตรียมออกอากาศทางเคเบิ้ลทีวี โดยมีการจ้างดารา และบุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมรายการ ซึ่งพวกตนทำงานให้นายท็อปในอัตราค่าจ้าง 50,000 ต่อคน 3 เดือนแรกได้เงินตามปกติ แต่อีก 3 เดือนถัดมาไม่จ่าย จึงรวมตัวกันฟ้องศาลแรงงาน และศาลตัดสินให้นายท็อปจ่ายเงินและค่าชดเชยให้พนักงาน
แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมจ่าย หนำซ้ำยังข่มขู่ว่ามีปืนและเป็นน้องชายนักการเมืองคนดัง ทำให้ทีมงานตนหลายคนเกรงกลัว ไม่กล้าติดตามทวงถามเอาเงินคืน รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 1,000,000 บาท ซึ่งที่ออกมาให้ข้อมูลเพื่อมายืนยันว่า นายท็อปมีพฤติกรรมหลอกลวงจริง และเชื่อว่าถึงแม้จะจับตัวมาดำเนินคดีได้ นายท็อป ก็ไม่มีทางจะจ่ายเงินคืนผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงเจ้าสาวที่ถูกหลอกแต่งงานด้วย
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ที่จัดงานแต่งงานและยังไม่ได้เงินจากเจ้าบ่าวว่า สาเหตุที่ทุกคนหลงเชื่อคำพูดของเจ้าบ่าวเนื่องจากบุคลิกท่าทาง เป็นคนพูดจาน่าเชื่อถือ ดูเป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีท่าทีอวดรวยมาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่รู้จักเพราะเจ้าสาวแนะนำให้กับเพื่อนๆ ว่าเป็นแฟนและกำลังจะแต่งงานกัน ก็ค่อยๆ รู้เรื่องของเจ้าบ่าวทีละนิด ว่าเป็นคนรวย จากการค่อยๆพูดถึงเรื่องของตัวเองให้ฟัง
แต่ก็มีจุดที่ทำให้เริ่มผิดสังเกตเช่น วันที่พาเจ้าสาวและเพื่อนไปเที่ยวบ้านแม่ที่ จ.สระบุรี โดยบอกว่าแม่ทำฟาร์มไก่ดำมองโกเลีย ส่งขาย แต่เมื่อสอบถามอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องไก่ แม่ของเจ้าบ่าวตอบไม่ได้ และเจ้าบ่าวบอกว่าจบดอกเตอร์ที่อินเดีย แต่มีวันหนึ่งที่ไปดื่มสังสรรค์กัน มีการนำเมนูมาให้ดูซึ่งเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เจ้าบ่าวกลับทำตัวผิดปกติจนสังเกตได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว เจ้าบ่าวติดต่อมาเพียงแค่ครั้งเดียวในวันที่เจ้าสาวร้องต่อสื่อ โดยบอกว่าทำไมต้องทำกันขนาดนี้ ก่อนพูดจาข่มขู่ในลักษณะว่าจะแฉกลับ ซึ่งวันที่ 9 ตุลาคมนี้ จะครบกำหนดที่เจ้าบ่าว อ้างว่าจะใช้หนี้คืน แต่ทุกคนยังไม่มั่นใจว่าจะได้เงินคืนจริง