ผู้เสียหาย เผย เคยถูกเสี่ยกำมะลอ ให้ทำรายการออกทางโทรทัศน์ ก่อนลอยแพพนักงานร่วม 14 ชีวิต มูลค่าความเสียหายหลักล้าน
หญิงสาวรายนี้ ระบุว่า เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่เคยถูกนายท็อป หรือ เสี่ยกำมะลอ หลอกให้ทำงาน ก่อนเบี้ยวไม่จ่ายเงินเดือนติดกันหลายเดือน
ผู้เสียหาย บอกว่า เพิ่งเห็นข่าวนายท็อป และจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เคยหลอกกลุ่มตนและทีมงานรวม 14 คน เมื่อ 7 ปีก่อน จ้างให้ทำรายการกว่า 20 เทป เพื่อเตรียมออกอากาศในช่องหนึ่งทางเคเบิ้ล มีการจ้างดารา และบุคคลมีชื่อเสียงมาร่วมรายการ ให้ค่าจ้าง 5 หมื่นบาทต่อคน
ช่วง 3 เดือนแรกได้เงินตามปกติ แต่อีก 3 เดือนถัดมาไม่จ่ายเงิน จึงรวมตัวกันฟ้องศาลแรงงาน แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมจ่าย หนำซ้ำข่มขู่ว่ามีปืนและเป็นน้องชายนักการเมืองดัง ทำให้ทีมงานกลัว ไม่กล้าทวงเงิน
เฉพาะตัวเองเสียหายกว่า 3 แสน รวมทุกคนน่าจะเสียหายเป็นล้าน ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล เพราะอยากยืนยันว่า นายท็อปมีพฤติกรรมหลอกลวงจริง และเชื่อว่าถึงแม้จะจับตัวมาดำเนินคดีได้ นายท็อปก็ไม่มีทางจะจ่ายเงินคืนผู้เสียหาย
ส่วนที่ จ.นครพนม พบข้อมูลว่า นายท็อป ยังไปหลอกลวงแม้กระทั่งพระ
พระมานพ อุฏฐาจี อายุ 51 ปี พระลูกวัดศรีเทพประดิษฐาราม เล่าว่า ปลายปี 2561 มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ โยมแอ็ด มาบอกว่า นายท็อป ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพบูรณะศาลาวัด วงเงิน 30 ล้านบาท ตกลงกันว่าจะเริ่มสัญญา วันที่ 6 มกราคม 2562 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 250 วัน ผู้รับเหมา สั่งอุปกรณ์ก่อสร้างมาเตรียมไว้ แต่พอไปเบิกเงินกลับบ่ายเบี่ยง
กระทั่ง โยมแอ็ด ซึ่งไม่รู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยท็อปอย่างไร มาพูดคุยกับพระอาจารย์ ขอให้เปิดบัญชีรับบริจาค ในนามของเสี่ยท็อป แต่เจ้าอาวาสเห็นว่าไม่เหมาะสม โยมแอ๊ด ไม่พอใจรีบออกจากวัดไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย ส่งผลให้ผู้รับเหมา ไม่ได้รับเงินงวดแรก
พระครู บอกว่า จนถึงขณะนี้ผู้รับเหมายังทิ้งนั่งร้าน และเหล็กเส้นต่างๆ ไว้ด้านหลังศาลา รอเผื่อว่าเสี่ยท็อปจะกลับมา
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้ ยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับ นายท็อป ดังนั้นอยากให้รวมตัวกันแจ้งความ เพราะคดีฉ้อโกง มีอายุความ 3 เดือน นับตั้งแต่ทราบว่าถูกหลอก
ส่วนคดีค้างเก่า นายท็อปถูกดำเนินคดีไปแล้ว 1 คดี และอีก 1 คดี มีการถอนคำร้องทุกข์ไป จึงถือว่า คดีสิ้นสุดแล้ว