ทนายรณรงค์ ระบุ มีหลักฐานครบถ้วนเอาผิดเสี่ยกำมะลอได้ทันที แค่รอพริตตี้สาวเป็นผู้สรุป ขณะทางการจีนสั่งสอบ หลังโชเซียลฯปรากฏภาพ เสี่ยกำมะลอ ร่วมรัฐบาลไปดูงานที่ประเทศจีน
ภาพนี้ถูกนำมาเผยแพร่บนสังคมออนไลน์ เป็นภาพของ นายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ เสี่ยท็อป หรือ เสี่ยกำมะลอ ที่หลอกแต่งงานกับพริตตี้สาว ในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้เป็นหนี้กว่า 3 ล้าน 5 แสนบาท ขณะเดินทางพร้อมคณะไปดูงานที่บริษัทรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของประเทศจีน เมื่อวันที่ 26 - 27 ตุลาคม ปี 2555 หรือ ประมาณ 7 ปีก่อน โดยผู้บริหารของบริษัท ได้เปิดสำนักงานใหญ่ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวง ให้การต้อนรับ “เสี่ยท็อป” และ คณะ
แม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานถึง 7 ปี แต่หลังจากที่มีผู้เสียหาย ในวงการต่างๆ ออกมาแฉพฤติกรรมของเสี่ยท็อปต่อเนื่อง ก็ทำให้มีรายงานว่า บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลจีน ได้ประกาศบนเว็บไซต์เร่งสืบสวนและ ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีคนนอก บุกเข้าไปถึงพื้นที่หวงห้าม จึงเกรงว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย
ขณะที่ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากพริตตี้สาว หรือ ผู้เสียหาย ที่ถูก “เสี่ยท๊อป” หลอกแต่งงานทำให้เป็นหนี้มหาศาล เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคคีกับเสี่ยคนดังกล่าว โดยทราบว่าทั้ง 2 ฝ่าย ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจาคืนเงิน ที่ “เสี่ยท๊อป” นัดหมายในวันที่ 9 ตุลาคม
แต่ส่วนตัว ทนายรณรงค์ เชื่อว่า “เสี่ยท๊อป” จะไม่นำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายตามที่ตกลงกัน เพราะ ผิดนัดมาแล้วหลายครั้ง และ กรณีนัดคืนเงินกันวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ก็ไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดว่าจะคืนเงินจำนวนเท่าไหร่ และ คืนในรูปแบบใด
ทนายรณรงค์ ยังยืนยันว่า คดีนี้ หากผู้เสียหายต้องการเอาผิด “เสี่ยท๊อป” สามารถแจ้งความฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341 ได้ทันที เพราะ มีพยานหลักฐานเพียงพอ