ตำรวจทองหล่อ เรียกวินรถจักรยานยนต์ รุมทำร้ายแกร็บไบค์ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 47 มาสอบปากคำ ก่อนดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย
จากกรณีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างคนหนึ่ง สวมหมวกไหมพรม เข้ามาทำร้ายร่างกายคนขับแกร็บไบค์ โดยต่อยไปที่หน้าจนหมวกกันน็อกของคนขับแกร็บไบค์เกือบหลุด นอกจากนี้ ยังต่อยไปที่ลำตัว กระชากเสื้อ บางช่วงมีการสับศอกด้วย เหตุเกิดขณะที่การจราจรหนาแน่น มีรถจอดติดไฟแดงอยู่หลายคัน
คลิปดังกล่าว ผู้ที่บันทึกคลิปเป็นคนขับรถที่จอดติดไฟแดงบริเวณนั้น ได้นำมาโพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า ตนไม่รู้เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เป็นอย่างไร โดยพบว่า วินรถจักยานยนต์มากัน 3 คัน ล้อมคนที่โดนทำร้าย ซึ่งคาดว่า เป็นแกร็บไบค์ เหตุเกิดใต้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อ
ซึ่งชาวต่างชาติได้แต่ตะโกนบอกให้หยุด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอายมาก เหมือนเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน พร้อมมองว่า การที่วินรถจักรยานยนต์ทำดังกล่าว เหมือนเป็นการทำลายอาชีพของตัวเอง
ล่าสุด คุณฉัตรชัย เจริญธำมรงค์ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ของเราได้ลงพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจาไกล่และสอบปากคำ ก่อนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวรวิทย์ สว่างวงษ์ ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุได้มีลูกชาวต่างชาติ ได้เรียกแกร๊บมารับบริเวณปากซอยสุขุมวิท 47 แต่ขณะจะออกรถได้เห็นผู้ชายมายืนขวางกลางถนน พร้อมท่าทีจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย ตนจึงหักรถออกขวา ก่อนจะชนชายคนดังกล่าว ซึ่งด้วยความตกใจ และกลัวถูกทำร้ายจึงได้ขับรถหลบหนี แต่หนีไม่พ้น ถูกผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าทำร้ายร่างกายตามคลิป
นายวรวิทย์ ยังบอกอีกว่า ตนไม่ทราบว่า มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากมืด และมีเสาไฟฟ้าบัง รวมถึงตนเพิ่งมาขับแกร๊บ ซึ่งหากรู้ตนก็จะไม่รับผู้โดยสารบริเวณนั้น
ด้านนายสมนึก ชุ่มเย็น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เล่าว่า วันเกิดเหตุผู้เสียหายได้มารับลูกค้าบริเวณหน้าวิน ซึ่งได้มีน้องในวินพยายามเข้าไปพูดคุยว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่ทางผู้เสียหายไม่สนใจ พร้อมขับรถออกไป ก่อนชนรุ่นน้องในวิน อีกทั้งได้ขับรถหลบหนี ไม่มีการขอโทษ
ตนจึงเกิดอารมณ์โมโห ใช้มือตบเข้าที่ศีรษะประมาณ 4-5 ครั้ง แต่โดนที่หมวกกันน็อต ก่อนมีรุ่นน้องในวินมาห้ามไว้ พร้อมยืนยัน ไม่มีการรุมทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตำรวจ เตรียมดำเนินคดีกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะดำเนินคดีกับนายสมนึก ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย และดำเนินคดีกับนายวรวิทย์ ในข้อหา กระทำผิดกฎหมาย พรบ.รถยนต์ พร้อมทั้งเตรียมเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาเจรจาและทำข้อตกลง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก