เสี่ยรับเหมาเชื่อมีรักแท้ในโลกออนไลน์ ถูกสาวประเภทสองสวมรอยเป็นพริตตี้สาว ตุ๋นเงินกว่า 400,000 บาท ในระยะเวลา 4 เดือน
นายวิรัตน์ วิตรัมย์ อายุ 43 ปี เสี่ยรับเหมาก่อสร้างและตกแต่งภายใน จังหวัดภูเก็ต เข้าร้องเรียน หลังเล่นแอพพลิเคชั่นแชทหาคู่ และเจอหญิงสาวที่อ้าง ชื่อ ออมสิน เป็นพริตตี้สาว มีการพูดคุยจนเสนิทสนม หลงเชื่อว่าออมสินมีใจให้ จนตัดสินใจคบหากันและจะใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยเจอตัวกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เห็นแต่รูปภาพที่ส่งมาให้ ซึ่งได้เก็บไว้กว่า 1,000 ภาพในโทรศัพท์
ต่อมา ออมสินหลอกให้โอนเงินให้หลายครั้ง รวมแล้วกว่า 4 แสนบาท สร้อยคอทองคำ 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และโทรศัพท์ไอโฟนเอ๊กซ์ราคา 4 หมื่นบาท ในระยะเวลา 4 เดือนที่คบหากัน โดยให้ตนเองเปิดบัญชีธนาคาร ทำบัตรเอทีเอ็มให้ โดยมีสาวประเภทสอง ชื่อ แอม อ้างว่าเป็นพี่สาวออมสิน นัดมาเอาทรัพย์สินและสมุดบัญชีบัตรเอทีเอ็มไป
ซึ่งก็ทยอยโอนเงินให้ เพราะออมสินหลอกว่าจะแต่งงานกัน และจัดงานแต่งในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ที่เรือนหอที่สร้างขึ้นในจังหวัดขอนแก่น
จนสุดท้ายนัดหมายให้ ออมสิน มาทำบุญที่บ้านของตนเอง แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่มาตามนัดหมาย และติดต่อไม่ได้ จึงรู้ว่าตนเองน่าจะโดนหลอก และสงสัยว่า ออมสิน คือคนๆ เดียวกับ แอม สาวประเภทสองคนที่มารับทรัพย์สินและสมุดบัญชี
นายวิรัตน์ ยอมรับว่า ความรักบังตาจนไปหลงเชื่อมิจฉาชีพ อีกทั้งเพิ่งเลิกกับภรรยาได้ไม่นาน พอมีหญิงสาวที่ถูกใจและไว้ใจเข้ามาในชีวิต ก็อยากจะสร้างครอบครัวใหม่
ภายหลังตรวจสอบจากรูปภาพของหญิงสาวที่ ออมสิน ใช้แอบอ้าง ก็พบว่าไม่ใช่ตัวจริง เพราะหญิงสาวตัวจริงที่อยู่ในรูปภาพ มีอาชีพเป็นพิธีกร และเอ็มซี อยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่รู้เรื่องว่ามีคนนำรูปภาพของตนเองไปแอบอ้าง
ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมเพื่อดำเนินการทางกฎหมายระบุว่า การกระทำของ ออมสิน เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่นำรูปภาพของคนอื่นไปแอบอ้าง ซึ่งผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป