เด็กชายชั้นป.4 ในจังหวัดนครราชสีมา ขโมยปืนพ่อมาโชว์เพื่อนที่โรงเรียนก่อนลั่นถูกเพื่อนรักบาดเจ็บสาหัส
ตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เข้าตรวจสอบเหตุในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หลังเด็กชายเอ นามสมมุติ นักเรียนชั้น ป.4 ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา กระสุนทะลุปอดและหลัง อาการสาหัส โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือเด็กชายบี นามสมมุติ เพื่อนนักเรียนชั้น ป.4 ห้องเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้นำปืนขนาด 9 มม.ที่ขโมยจากพ่อมาโชว์เพื่อน แต่เกิดพลาดกระสุนลั่นใส่เพื่อน จนบาดเจ็บ ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนๆและครู ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และช่วยเหลือนักเรียนที่บาดเจ็บ
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนที่เกิดเหตุ เด็กชายชั้น ป.4 ทำปืนลั่นใส่เพื่อน ต่างมารอฟังข่าว และสอบถามว่า ลูกหลานของพวกเขาได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่ โดยหลายคนตกใจ เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดเหตุการณ์ และไม่สามารถเข้าไปในโรงเรียนได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบ
ทีมข่าวสอบถามผู้ปกครองคนหนึ่ง บอกว่า หลังทราบข่าวก็ตกใจมาก รีบมาที่โรงเรียน เพราะลูกชายอยู่ห้องเดียวกับเด็กที่ก่อเหตุ ส่วนตัวไม่คาดคิดว่า เด็กเล็กขนาดนี้ จะขโมยปืนพ่อมาเล่น และคาดว่า เพื่อนที่ถูกปืนลั่นใส่ ก็น่าจะคิดว่า ปืนดังกล่าวเป็นปืนของเล่น จึงอยากให้ทางโรงเรียนเข้มงวดกวดขัน เรื่องการดูแลไม่ให้เด็กพกอาวุธมาโรงเรียนด้วย
พันตำรวจเอกกฤตยา เลาประสพวัฒนา ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากโรงเรียนทำกิจกรรมทำบุญตักบาตรขึ้นปีใหม่ในช่วงเช้า จากนั้นเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ได้ให้เด็กขึ้นอาคารเรียน
แต่ระหว่างนั้นทราบว่า เด็กชายได้นำปืนมาเล่นควงโชว์เพื่อนที่หน้าห้อง จนปืนลั่น ยืนยันว่า ไม่ได้มีการทะเลาะกัน เพราะเด็ก 2 คนนี้ เป็นเพื่อนรักกันมากส่วนปืนที่เด็กขโมยมา เป็นปืนของพ่อที่เป็นทหาร คาดว่า เด็กน่าจะรู้ที่ซ่อนปืน และพกมาโรงเรียนเป็นวันแรก
ตำรวจยังสอบถามเด็กเบื้องต้นว่า เด็กรู้วิธีใช้ปืนได้อย่างไร ซึ่งเด็กบอกว่า เรียนรู้มาจากสื่อโซเชียล อย่างยูทูป ตำรวจจึงฝากเตือนผู้ปกครอง ควรต้องเฝ้าระวังการใช้สื่อโซเชียลของเด็ก เพราะเด็กอยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง
สำหรับเด็กชายที่ก่อเหตุ ขณะนี้ตำรวจได้ประสานทีมสุขภาพจิตมาดูแล เนื่องจากหลังเกิดเหตุเด็กอยู่ในภาวะตกใจมาก ก่อนจะประสานสหวิชาชีพสอบสวนตามขั้นตอน
ส่วนเด็กชายที่บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ล่าสุด อาการยังสาหัส เนื่องจากเยื่อหุ้มปอดฉีกขาดทั้ง 2 ข้าง จากการถูกกระสุนเจาะเข้าที่ชายโครงด้านขวาทะลุด้านหลัง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรก จึงมีการตั้งคำถามถึงการเข้าถึงอาวุธของเด็ก และ พฤติกรรมการเลียนแบบของเด็กมาจากไหน
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กรรมาธิการการศึกษา ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยนายวิโรจน์ ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเชื่อว่า น่าจะมีอะไรที่มากกว่าสิ่งที่เด็กได้ให้ข้อมูลกับครูหรือเจ้าหน้าที่
และการที่เด็กเข้าถึงอาวุธได้ ไม่ใช่แค่อาวุธที่อยู่ในบ้านหรือครอบครัว จริงๆแล้วก็สามารถเข้าถึงอาวุธอย่างอื่นๆ ได้จากร้านค้าเช่นกัน
ส่วนการที่บางคนมองว่า โรงเรียนควรจะมีการติดตั้งเครื่องสแกนอาวุธ นายวิโรจน์ ระบุว่า โดยส่วนตัวรู้สึกไม่เห็นด้วยเพราะว่ามันเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ
สำหรับที่หลายคนนำเรื่องเกมส์ หรือเรื่องอื่นๆมาเทียบเคียงว่า อาจจะเป็นเพราะเด็กนำมาจากเกมส์ ตรงนี้เป็นเพียงปลีกย่อยขององค์ประกอบเพราะเด็กทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยง หรือเราจะไปห้ามเด็กได้
ดังนั้น ตนมองว่า เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องแก้ไขร่วมกันทั้งสถาบันครอบครัว หรือสถานศึกษา โดยให้ฝ่ายช่วยกันปลูกจิตสำนึกให้กับเด็ก ให้เด็กได้ซึมซับว่าสิ่งไหนคือชีวิตจริง และสิ่งไหนคือเรื่องที่จำลองหรือสมมติขึ้นมา
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ระบุว่า หลังจากนี้ ตนเองในฐานะกรรมาธิการการศึกษา ก็จะนำเรื่องราวหรือเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ไปประชุมหาแนวทางแก้ไขให้เกิดความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น