ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายชิงทองในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ลพบุรี ทยอยเดินทางไปรับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้า
วันที่ 10 มกราคม 2563 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ลพบุรี ทยอยเดินทางมาที่ สภ.เมืองลพบุรี เพื่อติดต่อขอเข้ารับศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยนางปรุงจิตร์ ทวาทิพย์ แม่ของนางสาวธิดารัตน์ ทวาทิพย์ พนักงานร้านทอง กล่าวว่า ครอบครัวยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะตนเอง ไม่กล้าดูคลิปเหตุการณ์ เพราะทำใจไม่ได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยเตือนลูกสาวว่าให้ระวังตัว ตนก็ไม่เข้าใจว่าจิตใจของคนร้ายทำด้วยอะไร ทำไมไม่เอาทองไปอย่างเดียว แต่กลับยิงคนคนอื่นจนเสียชีวิต และบาดเจ็บ อีกทั้งลูกสาว ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลทุกคนในบ้านและยังมีลูกชาย 5 ขวบที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ โดยลูกสาวจะเป็นคนพาไปพบแพทย์เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งหลังจากนี้ครอบครัว ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ขณะที่ พ่อและแม่ของ "น้องไทตัล" วัย 2 ขวบ ก็เดินทางมาทำเรื่องเอกสารเพื่อจะไปติดต่อขอรับศพลูกชายเช่นกัน โดยนายอนุชา กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ ยังรู้สึกโทษตนเองที่ไม่สามารถปกป้องลูกไว้ได้ ซึ่งน้องไทตัลเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว และภรรยาตั้งท้องน้องไทตัล ตอนที่อายุมากแล้ว คงไม่สามารถมีลูกได้อีก
โดยก่อนหน้านี้้ แม่น้องไทตัล ได้โพสต์ข้อความบอกรัก พร้อมขอโทษที่ปกป้องลูกไม่ได้ โดยระบุว่า "ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นกับตัวเอง มันเร็วจริง ๆ ป๊ากับแม่แทบขาดใจ ป๊ากับแม่รักหนู ป๊ากับแม่ขอโทษที่ปกป้องและช่วยหนูไม่ได้ ชาติหน้ามีจริงขอให้หนูเกิดเป็นลูกของป๊ากับแม่ทุกชาติไปนะครับ หลับให้สบายนะครับ เทวดาตัวน้อย ๆ ของแม่กับป๊า"
และเมื่อย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ในเฟซบุ๊กของแม่น้องไทตัล ยังมีการโพสต์อีกหนึ่งข้อความที่พูดถึงน้องไทตัล โดยระบุว่า "ตั้งแต่มีลูก ชีวิตนี้ก็ช่างมีค่า กลัวตายขึ้นมาทันที กลัวจะอยู่ไม่ถึงวันที่ลูกสำเร็จ กลัวว่าถ้าไม่มีเรา แล้วลูกจะอยู่ยังไง ..เป็นแม่คนแล้ว จะท้อแท้แค่ไหนก็ต้องเข้มแข็งให้ได้ จะทำอะไรก็นึกถึงแต่หน้าลูก เราอดได้ แต่ลูกอดไม่ได้ หัวอกคนเป็นแม่จะไม่มีวันทอดทิ้ง ลูกคือทุกสิ่งของชีวิต ทุกวันนี้ทำเพื่อลูกจริงๆ"