ระทึก!! เจ้าของอู่ซ่อม ยิงสวนตำรวจ หลังถูกกดดันปิดล้อมบ้านให้เข้ามอบตัว ในคดียิงเพื่อนบ้านเจ็บสาหัส
ตำรวจภูธรสารภี กว่า 30 นาย นำกำลังเข้าปิดล้อมเกลี้ยกล่อม ให้นายเกรียงไกร อายุ 49 ปี ออกมามอบตัว ในคดีบุกเข้าไปยิงนายสุริยนต์ เพื่อนบ้าน เจ้าของโรงงานธูป กระสุนเข้าที่แก้มทะลุท้ายทอย ได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ขณะปิดล้อง นายเกรียงไกร ยิงสวนออกมา ทำให้กระสุน เกือบถูกพันตำรวจเอก บัญชา อินถา ผู้กำกับการ สภ.สารภี โชคดีที่หลบทัน ตำรวจจึงยิงสวนเข้าไปในบ้านเช่นกัน หลังเสียงปืนสงบตำรวจต้องถอนกำลังออกมา วางแผนใหม่
โดยนายเกรียงไกร เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ มีพฤติกรรมเสพยาบ้ามานาน ถูกตำรวจจับกุมหลายครั้ง ก่อนก่อเหตุ ได้ทำร้ายร่างกายภรรยา จากนั้นก็จะนำปืน บุกไปยิงเพื่อนบ้าน คาดว่า น่าจะเกิดการคับแค้นใจ สงสัยว่า นายสุริยนต์ (ผู้บาดเจ็บ) เแจ้งตำรวจให้มาจับกุมตนเอง
จากนั้น ช่วงดึกที่ผ่านมา (15 ม.ค.) พลตำรวจตรี พิเชษฐ จิระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ร่วมประชุมกับ ตำรวจ สภ.สารภี และชุดปฎิบัติการพิเศษ ( นปพ.) ตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อ วางแผนจับกุมนายเกรียงไกร เบื้องต้นได้ ปรับแผนติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์ ฉายเข้าไปในตัวบ้าน เพื่อกดดัน และให้มองเห็นผู้ต้องหา
สอบถามแม่บุญธรรม นายเกรียงไกร (ผู้ก่อเหตุ) เล่าให้ฟัง ตอนเกิดเหตุตนกำลังทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน เห็นนายเกรียงไกร (ผู้ก่อเหตุ) เข้ามาภายในบ้าน ปิดบ้านล็อกประตูทุกบาน
ต่อมา หลานสาวก็มาบอกว่า นายเกรียงไกรไปยิงเพื่อนบ้านมา ตนเข้าไปถามนายเกรียงไกร บอกว่า อยากให้ตำรวจกลับไปก่อน ขอเวลานอนพักผ่อน เหนื่อยและเครียดมาก และนายเกรียงไกร ก็ไล่ตนให้ออกจากห้อง ขู่ว่า มิฉะนั้นจะฆ่าตัวตาย
แม่บุญธรรม บอกอีกว่า ที่ผ่านมา นายเกรียงไกรเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี ส่วนตัวคิดว่า นายเกรียงไกร เครียดที่ทะเลาะกับภรรยา ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงมือตบตี ภรรยาจึงพาลูกหนีกลับบ้าน ส่วนที่ไปยิงเพื่อนบ้าน คาดว่า คงไม่พอใจ ที่นายสุริยนต์ (คนเจ็บ) พูดจาไม่ดีใส่
ด้านลูกชายของนายสุริยนต์ (ผู้บาดเจ็บ ) บอกว่า ช่วงเกิดเหตุ พ่อกำลังทำธูป อยู่ภายในบ้าน อยู่ๆ นายเกรียงไกร เดินเข้ามาภายในบ้านถามแม่ว่า พ่ออยู่ไหน จากนั้น ก็เดินไปที่โรงงานทำธูป ใช้อาวุธปืนทันที ยืนยันว่า พ่อของตนเองไม่เคยมีเรื่องกับนายเกรียงไกรมาก่อน
เบื้องต้น ตำรวจได้ส่งแม่บุญธรรม เข้าไปเจรจากับนายเกรียงไกร แต่ไม่เป็นผล ตำรวจจึงประสานไปยังภรรยา ที่หนีกลับบ้าน อำเภอแม่อาย ให้กลับมา เพื่อช่วยเกลี้ยกล่อม รวมแล้วใช้เวลาปิดล้อมกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล
ตำรวจจึงปรับแผนบอกว่า จะรอให้นายเกรียงไกร นอนพัก สร่างจากอาการเมายาเสียก่อน และช่วงเช้า วันนี้ (16 ม.ค.) จะส่งภรรยา เข้าไปเจรจาอีกครั้ง หากไม่เป็นผล จะจู่โจมจับกุมทันที