ตำรวจสอบสวนกลางบุกทลายแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติกลางกรุงกว่า 10 จุด พบเปิดบ้านหรูจ้างหญิงสาวกว่า 30 คน รับจ้างตั้งครรภ์จนคลอด
วันที่ 13 ก.พ. 2563 พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และตำรวจกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่าย "แม่อุ้มบุญ" ที่รับจ้างตั้งครรภ์ ก่อนจะส่งเด็กทารกไปยังประเทศจีน กว่า 10 จุด
โดยจุดแรก เข้าตรวจค้นหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ในซอยนาคนิวาส 37 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร พบนาย "จ้าวหลาน" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา "สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า"
ก่อนที่จะขยายผลไปตรวจค้น จุดที่ 2 ในหมู่บ้านเดียวกัน พบเป็นบ้านที่มีหญิงสาวอยู่รวมกัน 7 คน และเด็กทารกแรกเกิด เพศชาย 1 คน โดยหญิงสาวทั้ง 7 คน ได้รับการฝังไข่แล้ว และมีการดูแลเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลไปตรวจค้นบ้านพักภายในซอยทาวน์อินทาวน์ 9 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ที่เปิดเป็นอาคารสำนักงาน พบ บริเวณชั้น 2 และ 3 ถูกซอยแบ่งเป็นห้องพัก รวม 7 ห้อง โดยในห้องพักชั้น 2 พบ เด็กหญิงอายุประมาณ 4 เดือน ซึ่งชายที่อยู่ในบ้านพักอ้างว่าเป็นลูกของตนเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจค้นอาคารสูง 4 ชั้น ซึ่งห่างจากอาคารสำนักงาน 200 เมตร พบหญิงสาวอีก 6 คน โดยบางคนยอมรับว่า พึ่งได้รับการฝังตัวอ่อนเข้าไปในครรภ์
โดย พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ขบวนการดังกล่าวมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งการจัดหาหญิงสาว จัดหาที่พัก ตรวจสุขภาพ ตลอดจนถึงการคลอด และจากการแกะรอยขบวนการนี้ พบว่าทำมาตั้งแต่ปี 2555 โดยจะมีนายหน้ามาติดต่อหญิงสาวที่รับจ้างตั้งครรภ์ ในราคา 4-7 แสนบาท แต่หากเป็นลูกแฝดจะได้ราคาเพิ่มขึ้น
แต่หลังจากประเทศไทยมี พ.ร.บ.อุ้มบุญ ขบวนการนี้จึงเปลี่ยนเส้นทางให้หญิงสาวที่รับจ้างไปฉีดเสปิร์มที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนกลับมาที่ประเทศไทย และ เมื่อใกล้คลอด ก็จะให้เดินทางไปยังประเทศจีน
ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีหญิงสาวรับอุ้มบุญ ประมาณ 30 คน กระจายอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด /โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามตัวการใหญ่ของขบวนการนี้ต่อไป