เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดหลักเกณฑ์ - ช่องทางรับเงินประกันขอใช้ไฟฟ้าคืน เริ่มเปิดให้ลงทะเบียน 25 มี.ค.นี้

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พรัอมด้วย นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร่วมกันแถลงหลักเกณฑ์การขอคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้า โดยแบ่งผู้มีสิทธิ์เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทบ้านที่อยู่อาศัย และประเภทกิจการขนาดเล็ก โดยจำนวนเงินที่ได้คืนจะขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า และจำนวนเงินที่วางประกันไว้ในตอนแรก

ซึ่งเงินที่ได้คืนตรงนี้ ไม่ใช่เงินประกันค่ามิเตอร์ไฟฟ้า แต่เป็นเงินที่วางประกันไว้ในตอนแรกที่ผู้ใช้ไฟฟ้าขออนุญาตใช้ไฟฟ้า โดยทุกหน่วยงานห้างร้านจะวางเงินประกันจำนวนต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดการใช้งาน

สำหรับช่องทางการรับเงินวางประกันขอใช้ไฟฟ้า มีดังนี้


▪ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์ https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยกรอกชื่อ นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชน ให้ครบถ้วน


▪ การไฟฟ้านครหลวง

ช่องทางที่ 1 ลงทะเบียนทางออนไลน์ (เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง) ประกอบด้วยช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

แอปพลิเคชัน : MEA Smart Life
เว็ปไซต์ : www.mea.or.th
Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA
Twitter : @mea_news
Line : @meathailand
สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า (ใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป)

ช่องทางที่ 2 ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 02-256-3333 จำนวน 50 คู่สาย (ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 – 29 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 –15.30 น. ในวันทำการ

ช่องทางที่ 3 ลงทะเบียน ณ ที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต (เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 จึงขอความร่วมมือเริ่มใช้ช่องทางนี้ได้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป)

โดยหลังจากประชาชนตรวจสอบสิทธิ์ และลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 31 มีนาคม การไฟฟ้าจะทยอยจ่ายเงินคืนผ่าน 3 ช่อง ทางที่ประชาชนได้ลงทะเบียนไว้คือ 1.บัญชีพร้อมเพย์ 2.บัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับการไฟฟ้า และ 3.เคาน์เตอร์เซอร์วิส

ส่วนกรณีที่มีการซื้อ-ขายบ้าน คนที่จะได้เงินคืนยังคงเป็นคนแรกที่วางเงินประกันขอใช้ไฟฟ้า ส่วนกรณีที่ผู้วางเงินประกันขอใช้ไฟฟ้าเสียชีวิต ทายาทจะเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับคืน แต่ต้องมีเอกสารยืนยันตนให้ชัดเจน โดยทั้งสองกรณีนี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม เป็นต้นไป และสำหรับคนที่ซื้อบ้านหลังเดือนเมษายนนี้ เป็นต้นไป จะไม่ต้องเสียค่าขออนุญาตใช้ไฟฟ้า