ลูกสาวเดินทางกลับจากต่างประเทศ ไม่กักตัว เพราะคิดว่าไม่น่าป่วย และไม่มีอาการ สุดท้ายแพร่เชื้อให้แม่ จนแม่ป่วยหนัก
(7 เม.ย. 2563) ผศ.นพ.(พิเศษ)โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก "Opass Putcharoen" ถึงกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ที่ลูกสาวกลับจากต่างประเทศ และไม่ได้กักตัว จนทำให้ผู้เป็นแม่ติดเชื้อและอาการทรุดหนัก
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุไว้ว่า "การส่งผ่านเชื้อแบบไม่ได้ตั้งใจให้คนรอบข้าง
การติดต่อของโรคโควิดเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เดิมเคยเชื่อว่าการติดต่อเกิดหลังจากที่คนไข้มีอาการแล้วเหมือนโรค SARS
แต่ข้อมูลในปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้อาจติดต่อผ่านได้จากคนที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือก่อนที่จะมีอาการ (asymptomatic transmission และ presymptomatic transmission) ดังนั้นหากกลับมาจากต่างประเทศแม้ว่าไม่มีความผิดปกติอะไรเลยควรกักตัวอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 14 วัน อย่าเข้าใจว่าไม่มีอาการคือไม่ติดเชื้อ
เคสคุณป้าคนหนึ่งอยู่บ้านสบายดี ติดเชื้อโควิดจากลูกสาวที่เดินทางมาจากต่างประเทศแต่ไม่ระวังเรื่องการกักตัวเพราะคิดว่าตัวเองยังไม่มีอาการไม่น่าป่วย เลยไปอยู่ด้วยกันตามปกติ แต่แยกตัวออกไปหลังจากที่ลูกสาวเริ่มมีอาการเหมือนเป็นหวัด แต่ก็ไม่ทันการ วันที่มาตรวจคุณป้ามีอาการคล้ายเป็นหวัดมา 6 วัน เอกซเรย์ปอดยังปกติ อีกวันถัดมาอาการปอดอักเสบชัดขึ้น คนไข้หายใจเหนื่อยจนระบบหายใจล้มเหลวอย่างรวดเร็วและใส่ท่อช่วยหายใจ ย้ายเข้าห้องไอซียู คนไข้อาการหนักมาก เข้าใจความรู้สึกของลูกที่รู้ทีหลังว่าแม่ตัวเองต้องมานอนไอซียูเพราะไม่ระวังเรื่องการกักตัว
ต้องรู้นะครับว่าเราอาจจะทำให้คนในครอบครัวที่เรารักป่วยจากความไม่เข้าใจและไม่มีระเบียบวินัย หากกลับมาจากต่างประเทศต้องกักตัวจนครบ 14 วันครับ เพราะหลังจาก 14 วัน แม้ว่าติดเชื้อจะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้น้อย อาจจะทำยากแต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะเคสใหม่ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นเคสที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ"