ที่ประชุม ครม. มีมติให้คง 4 มาตรการหลักเพื่อควบคุมโควิด-19 คือ ชะลอเข้าประเทศ ปิดสนามบิน เคอร์ฟิว งดกิจกรรมที่มีคนหมู่มาก
(28 เม.ย. 2563) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มีมติคง 4 มาตรหลักหลังมีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน คือ
1. จำกัดการเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยทางอากาศ ให้ขยายระยะเวลาการห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวออกไปอีก 1 เดือน มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 – 31 พฤษภาคม 2563
2.ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน (Curfew) ระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น
3. งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดโดยไม่จำเป็น
และ 4. ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่ หรือสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังมีมติเห็นชอบในหลักการให้ ศบค. เป็นกลไกหลักในการกำหนดกรอบแนวทางการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และให้ศูนย์ปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคโควิด-19 ในด้านต่าง ๆ กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด กำหนดรายละเอียดใน การปฏิบัติงานตามประเภทของภารกิจและความรับผิดชอบของตนในพื้นที่
รวมถึงให้กระทรวงการต่างประเทศ รวบรวมรายชื่อคนไทยที่ตกค้าง และต้องการเดินทางกลับ เพื่อได้จำนวนที่ชัดเจน และเตรียมสถานที่รองรับต่อไป
ส่วนของการผ่อนคลายมาตรการ ได้มีการมอบหมายให้สำนักงานกลาง กระทรวงสาธารณะสุข และที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ร่วมกันกำหนดหลักการ โดยทั้งหมดต้องยึดปัจจัยด้านกระทรวงสาธารณสุขเป็นอันดับแรก และให้พิจารณาประเภทกิจกรรมที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และมีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค หากควบคุมโรคได้ก็จะมีการผ่อนปรนต่อ แต่หากควบคุมไม่ได้ก็จะสั่งปิดทันที ซึ่งในมาตรการผ่อนคลายจะต้องมีการเร่งตรวจเชื้อกลุ่มอาชีพเสี่ยงแรงงานต่างด้าวด้วย โดยขอให้ประชาชนรอฟังประกาศจากทาง ศบค. อย่างเป็นทางการ ว่ากิจการประเภทใดบ้างที่ สามารถเปิดทำการได้