กทม. อนุมัติแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมก่อนที่จะมีการผ่อนปรนให้เปิด 8 สถานที่ ส่วนจะเปิดเมื่อใดต้องรอทาง ศบค. ประกาศอีกครั้ง
(29 เม.ย. 2563) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ในที่ประชุมได้อนุมัติแนวทางปฏิบัติการผ่อนปรนให้สถานที่ 8 ประเภท กลับมาเปิดให้บริการได้ แต่ต้องทำตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ระบาด
โดยสถานที่ 8 ประเภทประกอบด้วย
1.ร้านอาหาร เฉพาะร้านนอกห้างสรรพสินค้าเท่านั้น สามารถนั่งทานที่ร้านได้ งดให้บริการบุฟเฟต์ที่ลูกค้าตักเอง ต้องเป็นบุฟเฟต์ที่ร้านจัดให้เท่านั้น จัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร มีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน งดทานเป็นครอบครัว ร้านข้าวแกงต้องมีฉากกั้น มีจุดล้างมือตามจุดเข้า-ออก ทำความสะอาดทุกชั่วโมง ส่วนโต๊ะอาหารตามพื้นผิวสัมผัสต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังมีผู้ใช้บริการ ส่วนร้านมีแอร์ ต้องเปิด-ปิดทุก 2 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาด พนักงานต้องรวบผม ใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ ล้างมือทุกครั้งก่อนประกอบอาหาร หากทางร้านไม่ปฏิบัติตามมาตรการ สามารถร้องเรียนได้
2.ตลาดสด และตลาดนัด ให้ขายสินค้าได้ทุกประเภท ตลาดต้องมีการจำกัดการเข้า-ออก ผู้ใช้บริการต้องมีการเว้นระยะห่าง กำหนดเว้นระยะห่างของแผงร้าน 1.5 เมตร มีจุดตรวจวัดไข้ มีจุดล้างมือ และหมั่นทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ห้ามเปิดเครื่องเล่นเด็กในตลาด ร้านอาหารปรุงสำเร็จ ต้องทำฉากกั้น
3.สถานที่ออกกำลังกาย เป็นประเภทที่มีระยะห่างกัน รวมถึงศูนย์กีฬาและศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร จะเปิดบริการ ให้เข้าไปออกกำลังกายได้เฉพาะกีฬาที่ไม่ใกล้ชิดกัน เช่น เดิน วิ่ง สนามแบดมินตัน เทนนิส เทเบิลเทนนิส เป็นต้น ไม่อนุญาตกีฬาประเภททีม เช่น ฟุตบอล ซอฟบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล กีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน ห้ามจัดการแข่งขัน ฟิตเนส ทุกที่ห้ามเปิดใช้บริการ
4.สวนสาธารณะ ให้เข้าใช้ออกกำลังกาย พักผ่อนได้ แต่ห้ามจับกลุ่มสังสรรค์ งดเว้นการออกกำลังกายเป็นกลุ่ม อาทิ แอโรบิค รำไทเก็ก เป็นต้น ต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุม และเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด
5.ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น และต้องหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม. ให้จองคิวเข้ารับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอในร้าน ช่างใส่หน้ากาก และเฟซชิลด์ด้วย
6.ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ นำสัตว์เข้าร้านได้ 1 คนต่อ1 ตัว เท่านั้น และหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม.
7.โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล เปิดได้ยกเว้นคลีนิคเสริมความงาม
8.สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อม ต้องมีจุดคัดกรองตรวจวัดไข้ กำหนดจุดเข้า-ออก เพื่อจำกัดจำนวนคน จุดล้างมือ เจลออลกฮอล์ ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ห้ามจัดการแข่งกัน ทำความสะอาดทุกครั้ง จดบันทึกชื่อ เบอร์โทร ผู้ใช้บริการเผื่อกรณีต้องสืบสวนโรค นัดคิวก่อนใช้บริการ พนักงานต้องใส่หน้ากากอนามัย แคดดี้ต้องมีระยะห่างจากผู้ใช้บริการ พนักงานห้ามมีการรวมกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม โฆษก กทม. อธิบายเพิ่มเติมว่า การจะประกาศว่าให้กลับมาเปิดเมื่อใด ต้องรอทาง ศบค. เป็นผู้ประกาศ เพื่อป้องกันประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามาใช้บริการ แบบนั้นจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
นอกจากนี้ ยังมีการต่ออายุการปิดสถานที่้เสี่ยงเพิ่มเติมไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ เช่น ผับ บาร์ สถานบันเทิง เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ทั้งนี้ ในส่วนการจำหน่ายเครื่องดื่มสุรานั้น ให้ทางรัฐบาลประกาศ หากรัฐบาลประกาศขยายเวลา ทางกรุงเทพมหานคร ก็พร้อมจะปฏิบัติตาม ซึ่งทั้งหมดนี้ โฆษก กทม. เผยว่า เป็นการแถลงเพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชน ได้เตรียมความพร้อม ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลอีกครั้ง