ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อเกี่ยวกับเรื่อง การไฟฟ้าคำนวณราคาก๊าซสูงกว่าตลาดไนเม็กซ์​ 4-5 เท่า​ ใช้เก็บค่าไฟฟ้าจากประชาชน จากการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พบว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นข้อมูลบิดเบือน

จากกรณีที่มีข่าวเรื่อง การไฟฟ้า​ คำนวณราคาก๊าซสูงกว่าตลาดไนเม็กซ์​ 4-5 เท่า​ ใช้เก็บค่าไฟฟ้าจากประชาชน ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่า ตามหลักความเป็นจริงไม่สามารถนำราคาก๊าซในตลาดโลกซึ่งเป็นราคาตลาดแบบขาจร (Spot) มาเทียบกันตรงๆ กับราคาก๊าซที่ใช้ผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันของประเทศไทยได้

โดยราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการคำนวณค่าไฟฟ้านั้นเป็นราคาก๊าซที่ กฟผ. และโรงไฟฟ้าเอกชนซื้อมาจากปตท. ซึ่งปตท. ก็รับซื้อก๊าซมาจากผู้ผลิตจากแหล่งอ่าวไทยพม่า และการนำเข้าจากก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG (Liquefied natural gas) ก็ต้องมีการทำสัญญาซื้อก๊าซแบบระยะยาวถึง 20-25 ปี โดยสูตรราคาการซื้อก๊าซของแต่ละแหล่งแม้จะมีการอ้างอิงกับราคาน้ำมันหรือราคาก๊าซในตลาดโลก แต่ราคาก็จะไม่ลงตามตลาดโลกในทันที

ซึ่งราคาก๊าซในอ่าวไทยจะลงช้ากว่าราคาตลาดโลกประมาณ 12 เดือน และ LNG ประมาณ 1-3 เดือน เพื่อไม่ให้เกิดความผันผวนของราคาระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายก๊าซ อีกทั้งยังเป็นผลดีในเวลาที่ราคาก๊าซในตลาดโลกขึ้น ราคาก๊าซในไทยก็จะยังไม่ขึ้นตามทำให้ประชาชนไม่ต้องรับผลกระทบจากค่าไฟมาก และลักษณะการทำข้อตกลงสัญญาซื้อขายก๊าซแบบระยะยาวก็เป็นแบบนี้เหมือนกันทั่วโลก

ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.erc.or.th หรือโทร. 1204