ออกงานเป็นครั้งแรก สำหรับ "แมทธิว-ลิเดีย" หลังจากที่หายป่วยด้วยโรคโควิด-19 เจ้าตัวเล่าวินาทีที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 1 เดือน บอกตอนนั้นวิตกกังวล ร้องไห้เกือบทุกวัน
“แมทธิว ดีน” ควงภรรยาสาว “ลิเดีย ศรัณย์รัชต์” เดินทางเข้ารับรางวัล “Heroes of Humanity” ในฐานะเป็นผู้กล้าหาญที่เปิดเผยอาการติดเชื้อโควิด-19 ของตนเองให้สาธารณชนรับทราบ พร้อมได้เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล โดยเล่าว่าวันนี้ออกวานครั้งแรก ที่เจอคนเยอะ ความรู้สึกบอกไม่ถูก ตอนนี้ตนทั้ง 2 คน กำลังใจดีขึ้น เหตุการณ์ที่ผ่านมาหนักที่สุดในชีวิต ตอนนี้ทำให้ตนมองโลกไปอีกแบบ ได้รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต
พร้อมเล่าว่า ตอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แมทธิวร้องไห้ไม่บ่อย แต่ลิเดียร้องไห้บ่อย เพราะมีหลายอารมณ์ ทั้งความกลัว ความวิตก ว่าเราจะตายไหม ลูกเราจะเป็นยังไง ไม่อยากตื่นอยากนอนต่อฝันถึงลูก ทั้งต้องสู้กับไวรัส สู้กับตัวเอง คิดต่างๆนานา ว่าเราจะหายไหม ยาที่กินจะฆ่าไวรัสไหม เราจะตายไหม คิดหลายอย่างทรมาณมาก
วันที่ผลออกมาเป็นลบ ดีใจมาก แมทธิวตรวจ 13 ครั้ง ลุ้นมากเพราะตรวจเป็นบวกมาตลอด ส่วนลิเดียเป็นที่ปอดหนักกว่า เพราะแมทธิวลงปอดข้างเดียว ส่วนลิเดียลงเป็นจุดเล็กๆ ขาวๆ ตามปอด ส่วนสภาพปอดตอนนี้ ยังต้องเอ็กซเรย์ปอดเรื่อยๆ เริ่มไปในทิศทางที่ดี แมทธิว 95% แล้ว ส่วนลิเดียอาทิตย์หน้า คาดว่าจะกลับมา 100% เริ่มออกกำลังกาย ฟื้นฟูตัวเองได้แล้ว
ทั้งนี้ ทั้งคู่บอกว่า ขณะที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นวันครบรอบวันแต่งงาน วันนั้นรู้สึกเศร้า ร้องไห้ เพราะดูรูปและวิดิโอเก่าๆ แล้ววันนั้นเพิ่งรู้ว่าลิเดียติดโควิด-19 วันแรก และต้องรักษาตัวอยู่คนละที่ บอกระหว่างที่รักษาตัวอยู่ด้วยกัน 30 วัน 24 ในห้อง 4 เหลี่ยม ทำให้เข้าใจ และรักกันมากขึ้น เพราะดูแลกันมาตลอด ขอบคุณกันและกัน ที่อดทนสู้มาด้วยกัน
วันได้เจอลูกครั้งแรกดีใจที่สุด รู้สึกโชคดีมากที่ลูกทั้ง 2 คน ไม่เป็นโควิด-19 ลูกชายน่ารักมาก เข้มแข็ง และเข้าใจว่าพ่อแม่หายไปไหย ลูกคือกำลังใจที่ดีของตน
ในส่วนของ เพลงขอบคุณ ตั้งใจทำให้คุณหมอ พยาบาล เพื่อเป็นการตอบแทน และเป็นกำลังใจทีมแพทย์ เพราะตนเห็นความยากลำบากของทีมแพทย์ เสียงของคุณหมอทำให้ตนมีกำลังใจสู้ต่อไป ในวันที่ตนรู้สึกย่ำแย่มาก
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทั้งจากคนที่รู้จัก และไม่รู้จัก ตนได้อ่านทุกข้อความ ยอมรับโควิด-19 ส่งผลกระทบทุกคน ขอให้ทุกคนสู้กับมัน และผ่านมันไปให้ได้ และขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง