เครือข่ายประชาชน 5 ภูมิภาค ตบเท้ายื่นหนังสือจี้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มองรัฐฉวยโอกาสลากยาวแฝงการเมือง ขาดการตรวจสอบ ห่วงใช้อำนาจนอกเหนือใช้ควบคุมโรคระบาด ไม่รับปากลงถนนหรือไม่ หาก ครม.เคาะต่ออายุในวันนี้
(26 พ.ค. 2563) นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานเครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ตัวแทนเครือข่ายประชาชน 5 ภูมิภาค เข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอให้ยกเลิกการเตรียมประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไป 1 เดือน โดยอ้างว่าเพื่อใช้ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 แต่ทางเครือข่ายเห็นว่าสามารถใช้กฎหมายปกติที่มีอยู่ เช่น พ.ร.บ.โรคติดต่อ ควบคู่กับมาตราการสาธารณสุข เพราะปัจจุบันประชาชนกลัวตายให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้คือเรื่องความเป็นความตาย เชื่อว่าทุกคนกลัวหมด แต่ก็กลัวอดตายเหมือนกัน
"พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งรัฐบาลเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานความมั่นคงกำลังอ้างอำนาจตาม พ.ร.ก.ดังกล่าว เพื่อฉุดโอกาส จำกัด และคุกคามสิทธิ เสรีภาพของประชาชน"
นายจำนงค์ ยังย้ำอีกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและรายได้ โดยเฉพาะคนจนที่ใช้แรงงาน ในขณะที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ยังสามารถดำเนินโครงการเพื่อใช้ทรัพยากรและแสวงหาผลประโยชน์ท่ามกลางความลำบากของคนส่วนใหญ่ เช่น กิจกรรมชาวบ้านที่บำเน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ที่ถูกคุกคามจากการเรียกร้องให้กระบวนการเหมืองแร่ยุติไป และชาวบ้านหาดม่วงงามที่คัดค้านโครงการกัดเซาะชายฝั่ง แต่ตำรวจไม่อนุญาตโดยอ้างสถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนกลายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่การควบคุมโรคแต่เป็นการควบคุมสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ส่วนหากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามที่ ศบค. ส่งเรื่องมาทางกลุ่มจะดำเนินการอย่างไรนั้น ตัวแทนกลุ่มระบุว่าต้องประเมิณสถานการณ์ก่อน ส่วนจะรวมกลุ่มหรือก่อม๊อบหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ตอนนี้