คดีที่ แหม่มสาวชาวยูเครน อายุ 32 ปี ถูกฆ่าอำพรางหมกศพในร่องน้ำกลางสวนชาวบ้านบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีจุดที่น่าสังเกตและพบความผิดปกติอย่างหลายทั้งก่อนและหลังการเสียชีวิต
คดีนี้เกิดขึ้น เมื่อเย็นวันที่ 6 มิถุนายน ตำรวจ สภ.บ่อผุด จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบศพ นางโอลฮา โฟรโลวา อายุ 32 ปี ชาวยูเครน ที่ถนนลูกรังแยกจากถนนเส้นรอบบ้านละไม เข้าไป 30 เมตร มีทางมะพร้าว 3 ทาง ปิดบังศพคล้ายถูกอำพราง สภาพเน่าเปื่อย คาดเสียชีวิต ไม่ต่ำกว่า 14-17 วัน พบกระเป๋าเป้ใกล้ศพ ภายในมียาจำนวนหนึ่ง และกระเป๋าสตางค์ มีเงินสด 700 บาท จุดที่น่าสังเกตคือ มีต้นมะพร้าว อยู่ห่างจากศพ 4-5 เมตร จึงคาดว่า คนร้ายนำมาใช้อำพรางศพ
ตำรวจสอบสวน นายดีมัส โฟลอฟ อายุ 40 ปี ชาวยูเครน อดีตสามี ให้การว่า อยู่กินกับผู้ตาย 12 ปี มีลูกชาย 1 คน และอยู่เกาะสมุย มา 5 ปี ต่อมาผู้ตายขอเลิก เพื่อไปอยู่กับแฟนใหม่ได้ 2 เดือน ก่อนจะหายตัวไปวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้ตาย นำลูกชายมาฝาก บอกว่าจะกลับมารับ หลังจากนั้นก็หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากนั้น 4 วัน ( 29 พฤษภาคม) จึงไปแจ้งความที่ สภ.บ่อผุด
8 มิถุนายน ตำรวจนำตัว นาย อาร์มตรอง ฟิลิป เจมส์ อายุ 47 ปี ชาวอังกฤษ เทรนเนอร์ฟิตเนส แฟนใหม่ของผู้ตาย มาสอบสวน ให้การว่าผู้ตายได้หย่ากับสามี และย้ายมาอยู่กับตนที่อพาร์ตเมนต์ แต่อยู่ได้ไม่นานก็มีปัญหากัน เนื่องจากผู้ตาย เป็นไบโพลาร์ ต้องกินยาเป็นประจำ เมื่อขาดยา ชอบทำร้ายตัวเองและโวยวาย โดยวันที่ 25 พฤษภาคม ตนเองกับผู้ตายเลิกรากัน และคืนห้องพักพร้อมนำรถจักรยานยนต์ที่เช่ามาคืนร้าน จากนั้นติดต่อผู้ตายไม่ได้ ก่อนมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว
9 มิถุนายน ตำรวจพบเบาะแสเป็นกล้องวงจรปิด ที่เห็นผู้ตายเดินอยู่เพียงคนเดียว ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 1,800 เมตร ซึ่งขณะนี้ยังเป็นภาพสุดท้ายที่พบผู้ตายก่อนเสียชีวิต วมถึงพบข้อความไลน์ที่ผู้เสียชีวิต ส่งถึงแฟนใหม่ มีการพูดถึงปัญหาค่าเช่ารถ และตัดพ้อถึงความสัมพันธ์
การเสียชีวิตของนางโอลา โฟรโลวา อายุ 32 ปี ที่พบศพอยู่ในร่องน้ำป่าพื้นที่หมู่6 ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ล่าสุดมีรายงานว่าพลตำรวจตรีฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะเรียกประชุมชุดสืบสวนในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากเมื่อวานลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งยังพบปริศนาหลายอย่าง ทั้งภาพวงจรปิดภายในซอยที่เห็นนางโอลา เดินมุ่งหน้าตรงไปทางจุดพบศพเพียงลำพังไม่มีผู้ติดตาม แต่ศพกลับถูกชาวบ้านที่ไปหาเห็ดพบในสภาพที่มีทางมะพร้าวปิดคลุมไว้
ขณะที่ทรัพย์สินอื่นอยู่ครบ ขาดเพียงโทรศัพท์มือถือที่ยังหาไม่พบ และก่อนหน้านี้มีข้อมูลจากร้านเช่ารถจักรยานยนต์ว่า นางโอลาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าและบอกว่าจะนำโทรศัพท์ไปจำนำเพื่อนำเงินมาจ่าย ในที่เกิดเหตุยังพบถุงใส่ยาจำนวนมาก ในขณะที่สามีเก่าให้ข้อมูลว่า นางโอลาป่วยเป็นไบโพล่า จึงยังเป็นปริศนาเรื่องการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ตำรวจให้น้ำหนักเท่ากันทั้งประเด็นฆ่าตัวตายและถูกฆาตรกรรม โดยต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
การตรวจสอบล่าสุดยังพบว่า ก่อนเสียชีวิตในช่วงเวลาประมาณ 16 นาฬิกาของวันที่ 25 พฤษภาคม นางโอลายังส่งข้อความไปถึงสามีใหม่ในเชิงตัดพ้อด้วย
ทีมข่าวตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง พบว่าทางเข้าไปจุดพบศพมีลักษณะเป็นทางลูกรัง และมีป่าล้อมรอบ ปกติไม่ค่อยมีใครใช้เส้นทางนี้สัญจร แต่ใกล้กันมีสวนทุเรียนและมีบ้านคนงานเฝ้าสวนอยู่ ซึ่งห่างจากจุดพบศพ 300-400 เมตร
ส่วนจุดพบศพที่มีทางมะพร้าวปกคลุมร่าง พบว่ามีต้นมะพร้าวอยู่จริง แต่ห่างไปประมาณ 4-5 เมตร จึงไม่มีทางที่ก้านมะพร้าวจะหล่นลงมาปกคลุมศพของนางโอลา
ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุ ชุดสืบสวนกำลังเร่งหาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่หายไป ซึ่งคาดว่าผู้ตายถูกฆ่าจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งที่สวนของชาวบ้าน เพื่ออำพรางคดี
ล่าสุดพันตำรวจเอก วาที อัศวุตมางกุร รองโฆษกสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า แพทย์อยู่ระหว่างผ่าชันสูตรร่างของสาวยูเครนที่เสียชีวิต ในพื้นที่สมุย โดยเน้นตรวจหาสารแปลกปลอมในร่างกาย คาดว่าใช้เวลา 4-5 วัน จะทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง