ทนายดัง ชี้ "ฌอน" รับบริจาคออนไลน์ไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร แต่หากใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ต้องเจอคดีฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมฯ
(30 มิ.ย. 2563) ความคืบหน้ากรณีที่ "ฌอน บูรณะหิรัญ" นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ชี้แจงประเด็นเงินบริจาคช่วยเหลือกรณีไฟป่า จ.เชียงใหม่ พร้อมแสดงหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 แต่กลับยังเป็นที่คาใจ เมื่อผู้ใช้โซเชียลมีเดียตั้งคำถามว่า เหตุใดเงินบริจาคเพื่อช่วยไฟไหม้ป่าเชียงใหม่ กว่า 2 แสนบาท จึงถูกนำไปใช้ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ และเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของฝ่ายปกครองท้องถิ่น ยังพบว่านายฌอน ไม่ได้ขออนุญาตเปิดรับบริจาคช่วยเหลือไฟป่ากับกรมการปกครอง ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่านายฌอน อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรหรือไม่
โดยในเรื่องนี้ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง เปิดเผยว่า กรณีของนายฌอน เป็นการเปิดรับบริจาคเงินผ่านทางโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เป็นการเดินเรี่ยไรตามหมู่บ้านหรือชุมชนที่จะต้องขออนุญาตจากฝ่ายปกครอง จึงถือว่าไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่างการรับบริจารของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการรับบริจาคซึ่งไม่ต้องผ่านการขออนุญาตใด ๆ นอกจากนี้ ยังเคยมีกรณีที่เป็นคดีความเรื่องการบริจาคออนไลน์คือกรณีพี่คล้าว 2018 ที่ขอรับบริจาคเงินไถ่ควาย ซึ่งในตอนท้ายทั้งชั้นตำรวจและอัยการไม่ได้สั่งฟ้องเพราะไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่า นายฌอน ไม่ได้แจ้งยอดเงินบริจาคตามยอดจริงหรือนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจเข้าข่ายเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมายหลายข้อหา โดยเฉพาะการฉ้อโกง เช่น การนำเงินไปใช้เกี่ยวกับเรื่อง โควิด-19 ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องไฟป่าตามที่เปิดรับบริจาค รวมถึงการนำเงินบริจาคประมาณ 250,000 บาท ไปใช้ทำคลิปวีดิโอ และโปรโมทคลิป ซึ่งเท่ากับเป็นการโปรโมทเพจโดยไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบก่อน จึงไม่ต่างอะไรกับการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของคนบริจาค ซึ่งความผิดนี้ต้องมีเจ้าทุกข์คือผู้บริจาคเป็นผู้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ทีมข่าวช่อง 8 พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนายฌอน ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก แต่ได้รับข้อมูลจากแอดมินเพจว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในแต่ละประเด็น หากพร้อมให้ข้อมูลจะติดต่อกลับ ขณะที่ช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ของนาฌอน ไม่มีความเคลื่อนไหวตั้งแต่มีประเด็นเกี่ยวกับเรืองเงินบริจาคเกิดขึ้น