ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด "ยิ่งลักษณ์" ใช้ตำแหน่งนายกฯโดยมิชอบ ปมโอนย้าย "ถวิล เปลี่ยนศรี" เปิดทาง "พล.ต.อ.เพรียวพันธ์" ขึ้นตำแหน่ง ผบ.ตร. ชง อัยการสูงสุดส่งสำนวนฟ้องศาลฎีกานักการเมือง
(1 ก.ค. 2563) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการชี้มูลความผิด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีใช้อำนาจโอนย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ เมื่อปี พ.ศ. 2554 ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายดำเนินการอย่างเร่งรีบรวบรัด แล้วเสร็จภายใน 4 วัน
จากนั้นในวันที่ 4 ตุลาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และในวันที่ 19 ตุลาคม 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอชื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเกษียณอายุราชการ วันที่ 30 กันยายน 2555 และเป็นเครือญาติของตนเอง ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทนตำแหน่งที่ว่างลงต่อที่ประชุม ก.ต.ช. ในการประชุมครั้งที่ 5/2554 วันที่ 19 ตุลาคม 2554 ซึ่งที่ประชุม ก.ต.ช. มีมติเห็นชอบ
ในกรณีนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ ที่ อ.992/2556 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 33/2557 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำเป็นการลดบทบาทและอำนาจหน้าที่ลง โดยไม่แสดงเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ปรากฏข้อเท็จจริง ว่านายถวิล ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีประสิทธิภาพ มีข้อบกพร่องหรือไม่สนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งถือได้ว่ามีเหตุผลสมควรที่ผู้บังคับบัญชาสามารถสั่งโอนได้ตามความเหมาะสม จึงถือได้ว่าเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ว่า การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งเป็นเครือญาติ มาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ การกระทำทั้งหมดมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และของประชาชน แสดงให้เห็นถึงการมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีวาระซ่อนเร้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยทุจริต การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้นายถวิล ได้รับความเสียหาย เอื้อประโยชน์แก่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้ว เห็นว่าการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริตตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอื่น เห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป พร้อมให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น พร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 76